You are currently viewing 4 เคล็ดลับปรับทัศนติให้ปัง ฉบับคนขายของออนไลน์ ก้าวทันนำหน้าคู่แข่ง

4 เคล็ดลับปรับทัศนติให้ปัง ฉบับคนขายของออนไลน์ ก้าวทันนำหน้าคู่แข่ง

การสร้างแบรนด์หรือการขายของออนไลน์ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากความเสี่ยงทางธุรกิจจากปัจจัยต่าง ๆ แล้ว ยังมีคู่แข่งจำนวนมากที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นการมีเพียงแค่ “ความเก่งและความสามารถ” อย่างเดียวอาจมีน้ำหนักไม่มากพอที่จะพาคุณไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ในยุคที่การแข่งขันดุเดือดขนาดนี้

นอกจากคู่แข่งที่เป็นปัจจัยสำคัญแล้ว หลายบริษัทส่วนใหญ่ก็มักจะดำเนินธุรกิจแบบเดิม ๆ ไม่เคยคิดเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเกิดวิกฤตหรือสถานะการณ์ฉุกเฉินจึงค่อยหาทางปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจเน้นไปตายเอาดาบหน้า แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าคุณรู้จักการวางแผนและปรับทัศนคติการทำธุรกิจให้พร้อมรับมือกับทุก ๆ สภาวะความเสี่ยงในการขายของออนไลน์เพื่อมีวิธีการรับมือที่ชัดเจน และใช้ความเก่งและความสามารถที่มีอยู่ได้ตรงจุดเพื่อพิชิตคู่แข่ง

วันนี้ Shipnity มี 4 ทัศนคติดี ๆ ที่นักขายของออนไลน์ต้องมีติดตัวมาแบ่งปันทุกคนแล้ว มั่นใจได้เลยว่าแบรนด์ของคุณจะเก่งทั้งบู้และบุ๋น โดดเด่นและปังขึ้นมาทันทีแบบไม่มีสะดุดแน่นอน!

1. เปิดมุมมอง รับสิ่งใหม่ มองหาโอกาส คิดแหวก กล้าที่จะแตกต่าง

ในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธุรกิจส่วนใหญ่หันมาขายของออนไลน์ ด้วยการสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ มาโปรโมตสินค้าแต่ในโลกออนไลน์ที่มีความไม่แน่นอน การแข่งขันสูง และเทรนด์ที่เปลี่ยนไวเช่นนี้ ตัวเจ้าของธุรกิจ/นักขายออนไลน์เองก็ต้องตามให้ทันและกล้าเรียนรู้ที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ และอย่ามัวแต่ปิดกั้นความคิดตัวเอง อย่าคิดว่าทำไม่ได้ แต่ให้ลองทำดูก่อน บางครั้งอาจจะดีกว่าที่คิด

ถึงแม้ว่าความคิดนั้น ๆ จะดูแปลกแหวกแนว จนอาจจะถูกคนอื่น ๆ มองว่าเป็นไปไม่ได้ก็ตาม แต่หากคุณไม่ลองลงมือทำ คุณก็จะไม่ได้ลิ้มรสการเป็นผู้นำเทรนด์ ให้ท่องไว้เสมอว่า คิดก่อน ทำก่อน ปังก่อน! เพราะถ้าสิ่งนั้นปังจนว้าวขึ้นมาคุณก็อาจกลายเป็นคนที่สามารถนำเทรนด์คนอื่นยืนหนึ่งในตลาดได้เช่นกัน

2. รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาด

ไม่มีใครเกิดมาแล้วจะขายดีราบรื่นหรือขายของลื่นไหลเป๊ะอยู่ตลอดเวลาหรอก จริงไหม? ยิ่งกับการทำธุรกิจขายของออนไลน์ด้วยแล้ว ปัญหาและอุปสรรคในแต่ละวันก็เยอะมาก ตั้งแต่การคำนวณต้นทุน กำไรการเปิดออเดอร์ไปจนถึงการส่งสินค้า แต่ละอย่างล้วนเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และแก้ไขไปทีละจุด กว่าจะผ่านมาได้ไม่ใช่ง่าย ๆจึงต้องอาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้อยู่ไม่น้อย ถึงแม้ระหว่างทางจะมีเหงื่อตกและเสียน้ำตาบ้างก็ตามซึ่งหากคิดจะขายของในยุคนี้ได้ต้องมั่นใจว่าคุณแบกสิ่งต่าง ๆ ไหว

ถ้าอยากให้แบรนด์ไปต่อได้ ต้องไม่ย่อท้อ มองปัญหาให้เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้วผ่านไป เรียนรู้จากสิ่งนั้นเพื่อพัฒนาให้ดีกว่าเดิม คิดเสียว่ามันเป็นสิ่งที่เข้ามาให้คุณได้เรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความผิดพลาดเหมือนเดิม สิ่งเหล่านั้นจะทำให้แบรนด์พัฒนาและเติบโตได้อย่างเข้มแข็งขึ้นแน่นอน

3. มีเป้าหมายในใจ และวางแผนอย่างมีระบบ

สำหรับการขายของออนไลน์ การตั้งเป้าหมายก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เป้าหมายในปีนี้ของคุณคือ ต้องทำยอดขายให้ได้หนึ่งล้านบาท ก็ควรวางแผนการตลาด และส่วนอื่น ๆ ให้ดีเพื่อบรรลุเป้าหมาย ควรมีแผนหลักและแผนสำรองเผื่อไว้ใช้เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน คิดและทำสิ่งนั้นให้เป็นนิสัย นอกจากที่จะทำให้เราทำงานได้ราบรื่น งานก็เสร็จตามเป้าหมายที่ตั้งแล้ว ยังทำให้เราได้ทบทวน ไตร่ตรองก่อนทำจริงถือเป็นทัศนคติที่มีติดตัวไว้แล้วชีวิตปัง พัฒนาต่อยอดสู่ความสำเร็จได้อีกมาก จะทำให้เรารู้ทิศทางว่าจะไปทางไหน

ในทางกลับกัน หากเราไม่วางแผนอะไรเลย ก็จะให้ทำให้ห่างไกลความสำเร็จไปเรื่อย ๆ จากที่จะพาแบรนด์ไปสู่เป้าหมายอาจจะต้องมาตกม้าตายเพราะตัวเอง

4. เรียนรู้ที่จะจัดการและรับมือกับความเสี่ยง

คิดจะทำธุรกิจ จงอย่าเบาใจ ทุกอย่างมีความเสี่ยงและมีราคาที่ต้องจ่ายในโลกของการขายของออนไลน์ เริ่มตั้งแต่เงินทุนที่เอาไปลงทุนสต๊อกสินค้า หากลงทุนมากไปของขายไม่ออกก็เจ๊งได้ ลงทุนน้อยไปของไม่พอขาย ลูกค้าก็หายตามสเต็ปมีความเสี่ยงเต็มไปหมดที่รอคุณอยู่ในการขายของออนไลน์

แต่สิ่งหนึ่งที่คุณทำได้ คือ การเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเสี่ยงนั้น การคิดหาแนวทางที่จะช่วยรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆไว้อย่างรอบคอบ ควรมีแผน A แผน B สำรองไว้รองรับเสมอ เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้ว่าสิ่งที่ทำไปแล้วจะเกิดความเสี่ยงอะไรขึ้นได้บ้าง ดังนั้นคุณในฐานะคนขายของออนไลน์ก็ควรตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา จะได้ไม่พลาด ในทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงที่อาจกระทบกับธุรกิจของเรากันไว้ดีกว่าแก้จะดีกว่า

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และให้ไอเดียกับนักขายของออนไลน์ทุกคน นอกจากจะใช้กับธุรกิจได้แล้วยังเอามาปรับใช้ในชีวิประจำวันได้อีกด้วย ถ้าคุณทำได้รับรองว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก นำคนอื่นอยู่ 1 ก้าวเสมอ

Shipnity-LOGO

ธุรกิจจะเติบโตอย่างเข้มแข็งและมั่นคงได้ ต้องมีระบบหลังบ้านที่ดีจึงจะสามารถส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับลูกค้าได้
Shipnity เป็นระบบจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ ซึ่งมีฟังก์ชันมากมายที่จะช่วยให้การ
ขายของออนไลน์ง่ายขึ้น
ตั้งแต่เปิดออเดอร์ ไปจนถึงจัดส่งสินค้า อีกทั้งยังมีรายงานสถิติที่สำคัญต่าง ๆ
ทำให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวภายในร้านค้าของคุณ

ให้ Shipnity เป็นผู้ช่วยที่รู้ใจของคุณ
ราคาแพ็กเกจเริ่มต้น 890.- มีให้ทดลองฟรี ! 14 วัน  https://blog.shipnity.com/stock-system-management-real-time/  

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
☎️ โทร: 065-226-8844
Facebook: facebook.com/shipnity
Line@: @shipnity