ปัญหาต้นทุนจมสินค้าเรียกได้ว่าเป็น “ปัญหาสามัญประจำร้านค้าออนไลน์” ที่ทุกธุรกิจต้องเจอ ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหากวนใจเหล่านี้อยู่เพราะขายสินค้าไม่ออก เงินทุนจม อย่าปล่อยให้มันกัดกินธุรกิจคุณจนขาดทุนแบบกู่ไม่กลับ รีบหาทางรับมือก่อนสายเกินแก้ วันนี้ Shipnity มี 5 วิธีที่สามารถช่วยคุณจัดการบริหารร้านค้า ออเดอร์ สต๊อก ได้ดีขึ้น จบปัญหาทุนจมสินค้าไปได้เลย แต่จะมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย
1. ก่อนสั่งต้องรู้ก่อนว่า สินค้าไหนขายดี/ขายไม่ออก โดยใช้ DATA เก็บข้อมูล
สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังให้มากเมื่อวางแผนจัดการสต๊อกสินค้า คือ “อย่าใช้ความรู้สึกไปเอง” ว่าสินค้าชิ้นไหนขายดีเป็นพิเศษ
เพราะบางทีคุณคิดไปเองว่า ชิ้นนั้น Sold out ชิ้นนี้ขายดี แต่พอเอาเข้าจริงสินค้าดังกล่าวกลับเต็มสต๊อก ขายไม่หมดสักที
ผลที่ตามมาก็เตรียมรับแรงกระแทกจากอาการทุนจมสินค้า เงินจมทุนกันได้เลย
แต่ถึงอย่างนั้นทางออกของเรื่องนี้ก็ยังสามารถจัดการได้ เราจึงแนะนำให้คุณเก็บตัวเลขยอดขาย/สถิติ แล้วนำ DATA ยอดขาย
เหล่านั้นของร้านค้ามากางและวิเคราะห์ดูกันให้ชัด ๆ ไปเลยว่าสินค้าตัวไหน ชิ้นไหนขายดี ขายหมดกี่ชิ้น ระบุออกมาให้เป็นตัวเลข
ที่วัดผลได้ชัดเจน แทนการเดาสุ่มไปเองว่ามันหมดแล้วต้องรีบเติมสต๊อกของ การทำเช่นนี้จะทำให้คุณรู้ทิศทางการสั่งสต๊อกสินค้าล็อตใหม่ว่าควรจะเติมสต๊อกเท่าไหร่จึงเพียงพอต่อการขายจริง ๆ และไม่เกิดอาการสินค้าค้างสต๊อกจนทำให้ขาดทุน
เมื่อทำสิ่งนี้ให้เป็นกิจจะลักษณะก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเผชิญหน้ากับปัญหาเงินจมทุน เพราะนอกจากที่คุณจะไม่สต๊อกของ
เกินกำลังแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้คุณคาดคะเนความน่าจะเป็นได้แม่นยำขึ้นมากกว่าการคิดไปเอง ให้คุณเห็นภาพรวมสต๊อก
ของธุรกิจด้วย จะได้ไม่สั่งของมาเกินความต้องการขาย
2. จัดโซนสต๊อกสินค้าให้เป็นระเบียบ ชิ้นไหนเข้ามาก่อน-หลัง
หากคุณเป็นคนที่มีสินค้า/ของล็อตใหม่เข้ามาไม่เคยได้พัก แต่ของล็อตเก่า ๆ นั้นก็ยังขายไม่หมด คุณจำเป็นต้องทำการ
จัดระเบียบสต๊อกของเก่า-ใหม่ให้เป็นระบบขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการต้นทุนจมสินค้า โดยอาจมีป้ายบาร์โค้ด + วันที่ผลิตกำกับไว้ชัดเจนเพื่อแปะตรงสินค้าชิ้นนั้น ๆ เป็นป้ายกำกับเพื่อทราบที่มาสต๊อก เพราะถ้าคุณพลาดในจุดนี้แล้วไปเน้นการขายของใหม่ก่อน สต๊อกเก่ากลับยังจมดิ่ง ขายไม่ออกไม่พอ ลูกค้าได้ของไปก็อาจกลับมาตำหนิคุณได้เพราะสินค้าเสื่อมสภาพนั่นเอง
นอกจากการมีบาร์โค้ดแปะกำกับไว้ที่สินค้าแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณไม่สับสนสต๊อก คือ การจัดการระบบสต๊อกสินค้าให้เป็น
แบบ FIFO ที่จะเป็นการจัดการบริหารสต๊อกสินค้าชิ้นไหนก็ตามที่เข้ามาในคลังก่อน ก็จะถูกนำออกไปขายก่อน การบริหารเช่นนี้
จะทำให้คุณมีลำดับก่อน-หลังในการขายสินค้าได้ชัดเจนเป็นระบบขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ของชิ้นไหนที่เสื่อมสภาพเร็ว หมดอายุไว ก็จะถูกระบายออกไปก่อน ช่วยป้องกันโอกาสในการเกิดสินค้าค้างสต๊อก (Dead Stock) ได้อีกทาง ทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการเช็กคุณภาพสินค้า พนักงาน/แอดมิน ก็นำสินค้าไปเรียงได้ตาม
ความเหมาะสม ไม่สับสนสต๊อก ลูกค้าก็จะได้รับของที่ดีที่สุด เงินก็ไม่จมไปทุนอีกด้วย
3. ขยันเช็กสต๊อกอย่างสม่ำเสมอทั้งแบบรายวัน/อาทิตย์/เดือน
หลาย ๆ ร้านค้ามักจะขยันเช็กสต๊อกบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการเกิดอาการต้นทุนจม เพราะการเช็กบ่อย ๆ จะทำให้คุณทราบความเคลื่อนไหว/สถานการณ์ของสินค้าทุกชิ้นในร้าน อันไหนควรรีบปล่อยของก่อน รวมไปถึงการเช็กเพื่อดูสินค้าคงเหลือที่ร้านมี
แต่การนับบ่อย ๆ ก็อาจทำให้เปลืองแรงพนักงานและเสียเวลาโดยใช่เหตุได้ ยิ่งถ้าร้านไหนสต๊อกเยอะ แยกเป็นอีกหลาย ๆ
ช่องทางการขาย แล้วยังจดสต๊อกด้วยมืออยู่บอกเลยว่าร้านคุณเตรียมพังได้แน่ เพราะนั่นเป็นการสูบเลือดและพลังงานพนักงาน
ไม่น้อย ทั้งยังผิดพลาดตกหล่นได้ง่ายไปอีก
แต่ถ้าคุณลองเปิดใจให้ระบบจัดการสต๊อก เช่น Shipnity เข้ามาช่วยให้ดูเช็กสต๊อกได้ Real-Time ง่าย ๆ พอสินค้าขายออกปุ๊บ ระบบก็ตัดสต๊อกได้ทันที ไม่มึนงงแน่นอน และอาจไม่ต้องใช้คนมานั่งนับเรื่อย ๆ เพราะระบบจะอัปเดตให้อัตโนมัติให้ทันทีเมื่อลูกค้า
สั่งซื้อออเดอร์เข้ามา ก็ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการจัดการสต๊อก และลดความผิดพลาดลงได้เยอะ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการข้อมูลและสต๊อกสินค้า
4. ติดตามและประเมินสถานการณ์ความเสี่ยง มีแผนสำรองฉุกเฉิน
ทำอย่างไรให้ร้านคุณไม่เสียโอกาสในการขาย เมื่อเผชิญกับช่วงเวลาที่ร้านคุณเกิดอุปสรรคบางอย่างทั้งจากภายในและภายนอก เช่น
ในวันที่ขายดีมาก ๆ แต่ถ้าสต๊อกหมดคลัง…จะทำอย่างไร?
สถานการณ์ตลาดช่วงนี้เงียบมาก…หรือควรจะต้องชะลอการสั่งสินค้ามาสต๊อก? เพื่อป้องกันการเกิดต้นทุนจมสินค้า
หากขาย ๆ ไปแล้วของหมด อยากรีบสั่งสต๊อกเพิ่ม การสั่งของล็อตใหม่นั้นยังต้องรออีก 3-5 เดือน ลูกค้าจะยังรอไปกับคุณไหม? ถ้าคุณวางแผนจัดการสต๊อกไม่ดี รอนานขนาดนี้ ลูกค้าได้หายไปซื้อร้านอื่นหมดแน่ หรือหากช่วงนี้ตลาดเงียบ สต๊อกของไว้ตั้งมาก แต่ก็ยังขายยาก ขายไม่ออก ก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเงินทุนจมไปกับสินค้าเป็นแน่ จะจัดการอย่างไรดี?
การติดตามเทรนด์ ติดตามลูกค้า และสถานการณ์ตลาด จึงจำเป็นอย่างมากที่จะช่วยคุณจัดการวางแผน สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในยุคนี้ เพื่อให้คุณทราบ และรับรู้ความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ทัน โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนจมสินค้าหรือเงินจมทุน ถ้าสินค้าหมดคลัง
หรือจะเปิดพรีออเดอร์ไปก่อน คุณต้องดีลกับโรงงานไว้ให้ชัดว่าของจะได้เมื่อไหร่ ตอนไหนคุณถึงจะพร้อมขาย
เพื่อไม่ให้คุณเสียลูกค้าไปในช่วงนี้ การประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ก็จะช่วยให้คุณวางแผนจัดการสต๊อกได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
5. อย่าลืมบันทึกทุกความเคลื่อนไหวของสต๊อกสินค้า
การบันทึกประวัติสต๊อกสินค้า เป็นประโยชน์อย่างมากในการป้องกันอาการต้นทุนจมไปกับของ เพราะเมื่อมีออเดอร์ใด ๆ
เกิดติดปัญหา
เช่น เมื่อลูกค้าได้ของไม่ครบ ขอเคลมคืนสินค้า สินค้าไม่ได้คุณภาพ คุณจะสามารถตรวจสอบออเดอร์ย้อนหลังได้ทันท่วงที
ว่าสินค้าล็อตนั้นมาจากคลังไหน ซัพพลายเออร์เจ้าใด? เพื่อแก้ปัญหาคืนของได้ตรงจุด คุณก็จะไม่ขาดทุนไปกับสินค้าชิ้นนั้น
หรือจะดูประวัติความเคลื่อนไหวสต๊อก เพื่อเช็กว่าแอดมินคนไหนดูแลสต๊อกอยู่บ้าง หากเกิดปัญหาสต๊อกรวน จะได้ตามตรวจสอบความผิดพลาดได้ถูกต้อง หรือแม้แต่การตามสินค้าที่ถูกส่งออกไปให้ลูกค้านั้นมีล็อตไหนที่เกิดปัญหาบ้าง คุณก็จะมีหลักฐานที่เก็บไว้เพื่อแก้ไขปัญหาลูกค้าได้ทันเวลา
การบันทึกประวัติสต๊อกสินค้าก็ช่วยให้คุณบริหารความเสี่ยงเรื่องต้นทุนจมไปกับสินค้าได้ ทำให้คุณมีวิธีการรับมือกับการขายของ
มีคำตอบให้ ไม่ทิ้งลูกค้าไว้กลางทาง ทั้งยังแสดงถึงความเป็นมืออาชีพในการขายของออนไลน์อีกด้วย
ทั้ง 5 ข้อนี้จะช่วยให้คุณพลิกสถานการณ์สต๊อก เงินจมทุนได้แน่ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ควรจะหมั่นเช็กสต๊อก ตรวจสอบสินค้าบ่อย ๆ เพื่อให้รู้ล่วงหน้าว่าสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของคลังเป็นอย่างไร จะได้เตรียมการวางแผนรับมือได้ทันเวลา
ยิ่งถ้ามีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการสต๊อกสินค้าได้สะดวกมาก อย่างระบบ Shipnity เอง ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยซับพอร์ตร้านค้าได้ครบ ในการบริหารสต๊อก เชื่อมต่อครบทุกช่องทางการขาย Shopee, Lazada, TikTok Shop, Line Shopping อัปเดตและตัดสต๊อกสินค้าอัตโนมัติ พร้อมกันทุกช่องทาง เช็กประวัติออเดอร์ & สต๊อกสินค้าย้อนหลังได้ตลอดเวลา แบ่งหน้าที่จัดสรรทีมงาน/แอดมิน ได้อย่างเป็นระบบ พร้อมฟีเจอร์ และบริการพิเศษอีกเพียบ ที่จะช่วยคุณจัดการร้านค้าได้อย่างมือโปร
ราคาเริ่มต้น 890.- ทดลองใช้ฟรี! 14 วัน
https://blog.shipnity.com/stock-system-management-real-time/
#ยินดีสอนใช้งานจนเป็นแม้ยังไม่จ่ายเงิน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร: 065-226-8844
Facebook: facebook.com/shipnity
Line@: @shipnity