You are currently viewing ใช้นายหน้า Affiliate Marketing แก้ปัญหาร้านเงียบ ดันยอดขายจาก 10,000 สู่ 1 ล้าน

ใช้นายหน้า Affiliate Marketing แก้ปัญหาร้านเงียบ ดันยอดขายจาก 10,000 สู่ 1 ล้าน

เดี๋ยวนี้จะทำธุรกิจแค่ยิง Ads อย่างเดียวมันไม่พอ ต้องมีลูกเล่นใหม่ ๆ ตัวช่วยดี ๆ มาช่วยเพิ่มยอดขาย การทำ Affiliate Marketing เลยเป็นอีก 1 ทางเลือกที่หลายร้านเขาเลือกใช้ เพราะมันทำให้ยอดขายโตไวแบบติดจรวด ใช้เงินน้อยแต่ผลประโยชน์ที่จะได้มันคุ้มค่า คุณอาจจะยังสงสัยว่ามันดีจริงมั้ย? แล้วถ้าจะเริ่มต้องทำยังไง รับรองได้เลยว่าถ้าอ่านจนจบแล้ว คุณจะเข้าใจในวิธีการทำการตลาดแบบมีนายหน้ามากขึ้นแน่!

Affiliate Marketing คืออะไร?

หลายคนคงเคยเห็นที่ใคร ๆ ต่างก็ออกมาแชร์กันว่านี่คืออาชีพใหม่ที่ทำเงินได้ดี บางคนก็มีเงินเป็นแสนได้ ถึงจะเริ่มทำไม่ถึงปี แต่อันที่จริงแล้วมันคือ การตลาดแบบพันธมิตร ที่หลาย ๆ แบรนด์เขาจะไปจับมือกับใครก็ตามที่สนใจในสินค้าของตัวเอง ให้ไปทำการโปรโมตสินค้าบนช่องทางต่าง ๆ หรือที่เรียกกันว่า ‘ติดตะกร้า’ ถ้าเกิดว่าสินค้าชิ้นนั้นขายได้ นายหน้าก็จะได้รับค่าคอมมิชชันตามที่ได้ตกลงกัน

ข้อดีอีกอย่างของ Affiliate Marketing คือ เราไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้าให้เขาล่วงหน้าเหมือนระบบตัวแทน แค่ให้พวกเขาทำคลิปรีวิว หรือทำคอนเทนต์เชิงสร้างสรรค์เพื่อบอกต่อสินค้าของเราให้มีคนรู้จักมากขึ้นเท่านั้น

ใครบ้างที่จะเป็นพันธมิตรได้ ?

ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นนายหน้าได้ พูดกันง่าย ๆ คือ เราแค่ต้องเลือกคนที่ใช่ให้แมตช์กับแบรนด์ของเรา ดูว่าใครที่มี Potential มากพอที่จะทำให้แบรนด์ของเราไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

ถึงส่วนใหญ่หลายแบรนด์เขาจะเลือกใช้ Influencer เพราะมีฐานผู้ติดตามเยอะ แต่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามนั่นคือ KOLs ที่เขาก็มีผู้ติดตามมากพอ ๆ กัน แต่อาจจะมีความเชี่ยวชาญที่เฉพาะเรื่องมากกว่า หรือบางทีเราอาจจะไม่ต้องเลือกคนจากฐาน Followers ก็ได้ แค่ต้องหาคนที่รู้จริงหรือพูดแล้วจะปิดการขายได้เลย เพราะเดี๋ยวนี้คนธรรมดาก็หันมาทำ Affiliate กันเยอะ

ทำไมต้อง Affiliate ดีกับธุรกิจยังไง? ควรทำจริงเหรอ?

> จ่ายเท่าเดิม แต่เข้าถึงคนได้มากขึ้น 

เลิกเสียเงินกับการยิง Ads โดยที่เราไม่ได้ลูกค้าเพิ่ม ดีไม่ดีนอกจากจะต้องจ่ายเงินแพงแล้ว ยังได้ไม่คุ้มเสียเพราะยอดขายตก เลิกขี่ช้างจับตั๊กแตนเอาเงินที่ลงไปกับ Ads มาแบ่งให้กับการทำ Affiliate บ้าง นอกจากจะประหยัดเงินได้มากขึ้น บางทีอาจเพิ่มยอดขายได้มากกว่าที่คุณเสียเวลาหาลูกค้าผ่านการยิง Ads ด้วยซ้ำ 

> วัดผลได้ จ่ายเงินเมื่อขายได้จริงเท่านั้น

การทำ Affiliate Marketing ‘ต่าง’ จากการจ่ายเงินให้อินฟลูเอนเซอร์มาช่วยรีวิวแบบเห็นได้ชัด เพราะเราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้เขาไปก่อน รอดูว่าเขาสามารถทำยอดขายได้จริง ๆ แล้วเราในฐานะเจ้าของแบรนด์ก็ค่อยจ่ายเงินให้เป็นค่าคอมมิชชันตามที่ตกลงกันไว้ เป็นการลงทุนที่ไม่ว่ายังไงเราก็ได้ผลตอบแทนคืน

> ทางเลือกในการขายมากขึ้น 

จากเดิมที่เราทำงานอยู่ฝ่ายเดียว ได้แต่ยิง Ads รอให้ลูกค้าทักแชทจนท้อ ลองกระจายความเสี่ยง หาช่องทางใหม่ ๆ ให้เราได้โปรโมตสินค้ามากขึ้น เพราะเวลาที่เรามีนายหน้ามาช่วยทำรีวิวหรือทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ เราจะได้ฐานผู้ติดตามของเขาเข้ามาเป็นลูกค้าเราด้วย เผลอ ๆ อาจจะได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เรายิง Ads ให้ตายยังไงก็ไม่ได้ใจเขามาสักที 

>  แบรนด์น่าเชื่อถือไว้ใจได้ 

เพราะนี่ไม่ใช่แค่การตามเทรนด์ให้ทัน แต่มันเป็นการซื้อใจลูกค้ากลุ่มเดิมให้ได้ลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่ม เชื่อเถอะว่านายหน้าที่มาช่วยเราขาย อย่างน้อยก็ต้องมี 1% ที่เคยใช้สินค้าของเราจริงแล้วอยากบอกต่อ พอเราหาพันธมิตรแถมให้ค่าคอมมิชชัน เขาก็จะยิ่งอยากช่วยเรา แล้วเวลาลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยใช้เขาดูเกี่ยวกับสินค้าของเรา เขาก็จะเห็นว่ามันมีคนใช้เยอะ น่าซื้อตามในทันที

Affiliate มีหลายแบบ แต่ละแพลตฟอร์มไม่เหมือนกัน

ในยุคที่สื่อมีอิทธิพลกับการตัดสินใจซื้อของคนแบบนี้ แน่นอนว่าแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง Shopee หรือ Lazada ก็จะมีลิงก์ให้นายหน้าเอาไปใส่ในช่องทางต่าง ๆ ที่เวลามีคนคลิกเข้ามาแล้วซื้อสินค้าจริง เขาก็จะได้ค่าคอมมิชชันไปตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน

หรืออีกช่องทางที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ TikTok เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ทั่วโลกเขาใช้กัน เป็นตลาดกลุ่มใหญ่ที่หลาย ๆ แบรนด์อยากได้ ก็จะมี TikTok Shop ให้คนเอาตะกร้าสินค้าไปติดในคลิป ถ้ามีคนกดซื้อของจากคลิปนั้น ๆ ร้านค้าก็จะได้ข้อมูลไปว่านายหน้าคนนี้ทำยอดขายไปได้เท่าไหร่ เพื่อเอาไปจ่ายค่าคอมมิชชัน

แม้กระทั่งพี่ใหญ่อย่าง Facebook หรือ Instagram ก็มีช่องทางให้คนได้เข้ามาซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มของพวกเขาแล้ว ต่อให้จะไม่ได้มีระบบ Affiliate ในตอนนี้ แต่หลาย ๆ แบรนด์ก็สามารถหาวิธีที่จะปรับให้มีนายหน้าบนช่องทางนี้ได้ แล้วให้ค่าคอมมิชชันไปตามที่ตกลงกัน แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะมีฟีเจอร์ที่มารองรับ Affiliate Marketing อย่างเช่น การติดตะกร้าในไลฟ์ เพิ่มเข้ามาก็ได้นะ!

ถึงจะดูใหม่แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวซะทีเดียว ต่อให้มีต้นทุนน้อยก็สามารถทำ Affiliate Marketingได้ ลองค่อย ๆ ศึกษาไปจะเข้าใจมากขึ้นว่าต้องเลือกยังไงถึงจะได้พันธมิตรที่โดนใจและตอบโจทย์กับธุรกิจของเรา แล้วมันจะช่วยให้เราขยายฐานลูกค้าได้มากกว่าเดิม จากที่ร้านเคยเงียบต่อไปก็จะมีลูกค้าเข้ามาต่อคิวเพียบเลยแหละ เพราะนี่คือการตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ก็เลือกใช้ แล้วทำให้ยอดขายพุ่งจากหลักหมื่นไปสู่หลักล้านได้เลย

Shipnity-LOGO

ส่วนใครที่เริ่มทำการตลาดแบบพันธมิตรไปบ้างแล้ว แต่ยังหาตัวช่วยที่จะมารองรับออร์เดอร์ที่เพิ่มมากขึ้นอยู่ Shipnity เป็นระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ที่จะทำให้คุณบริหารธุรกิจและปิดการขายได้ง่ายขึ้น ด้วยฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่ให้คุณพร้อมดูแลลูกค้าได้ตั้งแต่เริ่มจนจบการขาย แถมจับต้องได้ในราคาสบายกระเป๋า ให้เราได้เป็นอีก 1 คนที่พาธุรกิจของคุณไปถึงเป้าหมาย

สนใจสมัครได้เลยตอนนี้ หรือจะไปทดลองใช้ก็มีให้ฟรี 14 วันด้วยนะ! > https://blog.shipnity.com/stock-system-management-real-time/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
☎️ โทร: 065-226-8844
Facebook: facebook.com/shipnity
Line@: @shipnity