การสร้างออเดอร์แบบเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านระบบ Shipnity Express

เก็บเงินปลายทาง (COD) คืออะไร?
เก็บเงินปลายทาง หรือ COD (Cash on Delivery) คือ บริการจัดส่งพัสดุที่เรียกเก็บเงินปลายทางจากผู้รับพัสดุปลายทาง โดยขนส่ง

ส่งพัสดุแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) ดีอย่างไร?
– ช่วยให้ลูกค้าของคุณตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
– สร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในการซื้อสินค้า
– เพิ่มทางเลือกในการชำระเงินให้แก่ลูกค้า
– ขยายกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบจ่ายเงินออนไลน์ได้

ส่งพัสดุแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านระบบ Shipnity Express ดีอย่างไร?

พิมพ์ใบปะหน้าพัสดุได้ทันที
แจ้งเลขพัสดุ ให้ลูกค้าแบบอัตโนมัติผ่านแชท หรือ SMS
เรียกรถเข้ามารับถึงหน้าบ้านแบบไม่ต้องไปรอคิวที่สาขา
บริการช่วยเหลือ ติดตามพัสดุล่าช้า สูญหาย และเคลมพัสดุ
รายงานสถานะการโอนเงิน COD และค่าขนส่งแต่ละชิ้น

สามารถดูรายละเอียด และค่าธรรมเนียมการจัดส่งแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านระบบ Shipnity Express โดย คลิกที่นี่

วิธีการสร้างออเดอร์แบบเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านระบบ Shipnity Express

1. ไปที่หน้า “ออเดอร์”

2. คลิก “+ สร้างออเดอร์”

3. ใส่ข้อมูลลูกค้า ดังนี้ได้เลย
– ชื่อลูกค้า
– ที่อยู่ลูกค้า
– เบอร์โทรศัพท์
– อีเมล
– ช่องทางจำหน่าย
– หมวดหมู่ลูกค้า
– Tags
– จำหน่ายโดย (กรณีเปิดออเดอร์ให้ตัวแทน ร้านค้าสามารถเลือกรายชื่อตัวแทนที่ต้องการเปิดออเดอร์ได้เลย)
โดยระบบจะบันทึกข้อมูลของลูกค้าไว้
**ถ้ามีประวัติการซื้อของลูกค้าคนนั้นแล้วจะสามารถเลือกข้อมูลลูกค้าที่เคยบันทึกไว้ได้เลย

4. หากต้องการออกใบกำกับภาษีสามารถติ๊กที่ปุ่ม “ออกใบกำกับภาษี” ได้เลย

กรณีชื่อ และที่อยู่ ที่ใช้สำหรับออกใบกำกับภาษีข้อมูลไม่เหมือนกับชื่อ และที่อยู่ในการจัดส่งสามารถกรอกข้อมูลด้านล่างได้เลย
– ชื่อ-นามสกุล / บริษัทผู้เสียภาษี
– เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
– ที่อยู่ในการออกใบกำกับภาษี
– เบอร์โทรศัพท์

5. จากนั้นเพิ่มสินค้าลงในออเดอร์ โดยสามารถเลือกคลังสินค้าที่ “สินค้า” จากนั้นคลิก “เพิ่มสินค้า”

– สามารถ “ค้นหาสินค้า” ได้จาก ชื่อสินค้า, รหัสสินค้า หรือสแกนบาร์โค้ด แล้วกดค้นหาได้เลย

– สามารถเลือก “ราคาสินค้า” ได้ โดยเลือกได้ 3 แบบ คือ ราคาปลีก, ราคาส่ง, และสินค้าเซ็ต

6. สามารถใส่ส่วนลดสินค้า ได้ 2 แบบ ได้แก่ บาท และ % แล้วใส่ส่วนลดที่ต้องการในช่อง “ส่วนลด” ได้เลย

7. เลือกขนส่งที่ต้องการ
โดยคลิก “เลือกช่องทางการจัดส่ง” เป็น COD เช่น Flash COD, EMS COD, SCG COD หรือ Kerry COD
และเลือก “วิธีการจัดส่ง” ซึ่งมีวิธีการจัดส่ง 2 แบบ คือ
– จัดส่งเอง
– จัดส่งผ่านระบบ
** ในกรณีนี้เลือกเป็น จัดส่งแบบ EMS COD แบบ Dropoff

8. หากต้องการใส่ส่วนลดท้ายบิล สามารถใส่ในช่อง “ส่วนลดเพิ่มเติม” โดยเลือกได้ประเภทส่วนลดเป็น “บาท” หรือ “%” ได้

9. เมื่อใส่ข้อมูลออเดอร์ครบแล้ว ให้คลิก “สร้างออเดอร์”

10. คลิก “แจ้งโอนเงิน”

11. เลือกธนาคารรูปลูกศร (จ่ายเงินทีหลัง) โดยไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลช่องอื่นๆ จากนั้นคลิก “บันทึก”
หากไม่มีปุ่มลูกศร ดังภาพ สามารถเพิ่มวิธีการชำระเงินทีหลังได้ที่ การเพิ่มช่องทางการชำระเงิน แล้วดูรายละเอียดการเพิ่มช่องทางการชำระเงินแบบ COD

หากทางร้านไม่อยากแจ้งโอนเงินทุกครั้งที่ออเดอร์เป็น COD/ขายหน้าร้าน
สามารถทำได้ดังภาพเลย!

12. กด “ยืนยัน” หรือ “ปฏิเสธ” การแจ้งโอนเงินได้เลย

13. คลิก “ยืนยันการส่งของ” เพื่อให้ขนส่งเข้ามารับสินค้า และจะทำให้สามารถพิมพ์ใบ Dropoff ได้

14. เมื่อต้องการส่งสินค้า จะต้องพิมพ์ใบปะหน้า โดยคลิก “พิมพ์” และเลือกพิมพ์ เป็น
– ใบส่ง Dropoff
– ใบส่ง Dropoff + ใบเสร็จ เท่านั้น

15. เมื่อทำการพิมพ์ใบปะหน้าหรือใบเสร็จเรียบร้อย กด “Mark as printed”
**เพื่อป้องกันการพิมพ์ที่อยู่ลูกค้าออกมาซ้ำ
และสังเกตได้ว่าในช่องที่อยู่ผู้รับจะมีคำว่า เก็บเงินปลายทาง

16. เมื่อขนส่งเข้ารับพัสดุ หรือนำพัสดุไปส่ง แล้วพัสดุเข้าระบบขนส่งเรียบร้อย ระบบ Shipnity จะปิดรายการ และส่งข้อความแจ้งเลขพัสดุให้กับลูกค้าอัตโนมัติ

การแจ้งโอนเงินย้อนหลังสำหรับรายการ COD
สำหรับออเดอร์ COD ที่ปิดรายการไปแล้ว จำเป็นจะต้องเข้ามาแจ้งยืนยันว่าได้รับเงินแล้วอีกครั้ง เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลยอดขายเข้าในรายงานการขาย สามารถทำได้ดังนี้

1. ไปที่หน้า “ออเดอร์”

2. ฟิลเตอร์เลือก “จ่ายเงินย้อนหลัง”

3. จะขึ้นออเดอร์ COD ที่ต้องทำการแจ้งโอนเงินอีกครั้ง ให้คลิก “แจ้งโอนเงิน”

– ถ้าต้องการกดยืนยันทุกรายการ สามารถกด “ยืนยันทุกรายการ (ที่ปิดแล้ว)” แล้วเลือกธนาคารที่ต้องการได้ตามภาพ
ยอดขายของออเดอร์ COD ที่ยืนยันแล้วจะแสดงในหน้ารายงาน (ไม่ต้องทำการแจ้งโอนเงินอีกครั้ง)