You are currently viewing ถูกแล้วอย่างไร ทำไมขายไม่ออก? เจาะลึก 4 พฤติกรรมลูกค้าที่คุณอาจมองข้าม

ถูกแล้วอย่างไร ทำไมขายไม่ออก? เจาะลึก 4 พฤติกรรมลูกค้าที่คุณอาจมองข้าม

หนึ่งในปัญหาที่พ่อค้า/แม่ค้าออนไลน์ เจอกันอยู่บ่อย ๆ คือ ‘ขายของออนไลน์ไม่ได้เลย ทำไงดี? ถึงจะสู้ด้วยการลดราคาแทบตายแต่ก็ไม่เคยชนะใจลูกค้าได้สักครั้ง ดีไม่ดีก็มีแต่จะขาดทุนเข้าไปอีก ในขณะที่ร้านข้าง ๆ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็ขายแพงกว่าแถมคุณภาพสินค้าก็ไม่ต่างกัน แต่ทำไมลูกค้าพร้อมจะเทใจให้ร้านนั้นมากกว่า เรื่องนี้ Shipnity มีคำตอบ และนี่คือกลยุทธ์พิชิตใจลูกค้า รับรองว่าหมดปัญหาขายไม่ออกแค่ทำตาม 4 ข้อนี้

ลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่สินค้า แต่ซื้อประสบการณ์และความรู้สึกดี ๆ ด้วย

พื้นฐานที่คุณควรจะเข้าใจก่อนจะไปซื้อใจลูกค้า คือ ราคาเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการเลือกซื้อสินค้าเท่านั้น หลายร้านที่สินค้าดี แต่ขายไม่ได้ ทั้งที่คุณเองก็อาจจะขายถูกกว่าร้านอื่น ๆ นั่นเพราะสิ่งสำคัญที่อยู่เหนือปัจจัยเรื่องราคา มันคือความน่าเชื่อถือ เริ่มมองจากตัวคุณเอง ก็คงมีหลาย ๆ ครั้งที่คุณยอมจ่ายแพงกว่า ทั้ง ๆ ที่สินค้าก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่เป็นเพราะของชิ้นนั้นที่คุณกำลังจะซื้อมาจากแบรนด์ที่ดูคุ้นหูคุ้นตา แถมมีบริการหลังการขายที่ดีอีกด้วย เห็นไหมว่าแค่นี้ก็เพียงพอให้คุณยอมจ่ายในราคาที่แพงกว่าแล้ว เพราะความรู้สึกดี ๆ เหล่านี้มันมีคุณค่ามากกว่าราคา

4 ข้อที่ต้องรู้ ปิดเส้นทางขายไม่ออก สู่เส้นทางความสำเร็จ

หลังจากที่คุณเข้าใจมากขึ้นแล้วว่าราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเพียงอย่างเดียว ทีนี้ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องลงลึกให้มากขึ้นแล้วว่าจะต้องทำยังไงถ้าอยากแก้ปัญหาขายของออนไลน์ไม่ได้เลย

1. ลองมองไปที่คู่แข่งว่ามีอะไรที่เขาทำได้ดีกว่าเรา

แน่นอนว่าลูกค้า คือ คนสำคัญ แต่อย่าลืมว่าคู่แข่งก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกำแพงที่เราจะต้องข้ามไปให้ได้เหมือนกัน ถ้าอยากแก้ปัญหาขายไม่ออก ก็ต้องเริ่มเรียนรู้จากคู่แข่งนี่แหละ มีอะไรที่เขาทำแล้วมัดใจลูกค้าได้ไม่หลุด มีจุดไหนที่คู่แข่งทำได้ดีกว่าเรา เรื่องพวกนี้ต้องเอามาใส่ใจแล้วทำการบ้านให้กับแบรนด์ของคุณเยอะ ๆ 

ยกตัวอย่างง่าย ๆ สมมติว่าคู่แข่งของเรามีบริการหลังการขาย คอยสอบถามความพึงพอใจของลูกค้าหลังจากได้รับสินค้าไป แล้วนำไปปรับปรุงและพัฒนาแบรนด์ของเขาอยู่ตลอด อย่างน้อยเราก็ควรจะทำให้ได้แบบเขาบ้าง ถ้ายังไม่เคยลองก็ต้องเริ่มทำให้เป็นนิสัยตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่วันข้างหน้าลูกค้าจะได้กลับมาซื้อสินค้าจากร้านเราซ้ำ แถมเรื่องการบริการที่ดี จะช่วยให้เกิดการบอกต่อและได้รับความไว้ใจจากลูกค้ามากขึ้นด้วย เป็นวิธีที่ง่าย ไม่เสียเงิน แต่ทำแล้วได้กำไรกลับมาเกินเท่าตัวเลยล่ะ

2. ลองหาตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้การซื้อขายออนไลน์เป็นเรื่องง่าย

เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลเกินกว่าจะมานั่งทำทุกอย่างด้วยตัวเองแล้ว ลองหาเครื่องมือมาช่วยทุ่นแรงในการทำขายของออนไลน์ ถ้าสินค้าดี แต่ขายไม่ได้ การมีตัวช่วยดี ๆ จะทำให้คุณบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมช่วยเพิ่มความสะดวกให้ทั้งคนซื้อและคนขายอีกด้วย ลงทุนกับระบบจัดการหลังบ้านก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนขายของออนไลน์ควรมีติดร้าน

เช่น ลองหันมาใช้ระบบจัดการหลังบ้านอย่าง Shipnity ที่มีตัวช่วยเด็ด ๆ ที่จะทำให้คุณสามารถรวบรวมข้อมูลการสั่งซื้อของลูกค้าได้ว่าเคยซื้อสินค้าจากร้านเราบ่อยแค่ไหน พอมีข้อมูลตรงนี้แล้ว การจะเสนอโปรโมชันให้กับกลุ่มลูกค้าคนสำคัญก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

3. ลองหาจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านเรา

บางครั้งสินค้าที่ดูธรรมดา อาจมีความพิเศษและซ่อนบางอย่างที่คุณคาดไม่ถึง ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะนำเสนอสินค้าชิ้นนั้นยังไงให้มันดูน่าสนใจมากพอที่จะทำให้ลูกค้าอยากซื้อ วาทศิลป์ในการขายของก็เป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ควรมีติดตัว ถ้าคุณอยากเป็นมือโปรในการขายของออนไลน์

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าคุณเปิดร้านขายเสื้อผ้าแล้วช่วงแรกขายดี แต่พอเปิดร้านไปนาน ๆ กลับเจอปัญหาเสื้อผ้าขายไม่ออก เรื่องนี้คุณต้องลองปรับกลยุทธ์ในการขายดูก่อน เช่น ถ้าคุณวางแผนจะซื้อใจกลุ่มลูกค้าสายแฟชันที่ชอบแต่งตัวออกไปถ่ายรูป ก็ลองหยิบเอาเสื้อผ้าในร้านของคุณ 2-3 ชิ้นมาทำคอนเทนต์ในการขาย ถ่ายให้เขาเห็นเลยว่าเสื้อผ้าในร้านของคุณมันใส่ออกมาแล้วจะทำให้เขาดูดีได้ขนาดไหน เพราะไม่ว่าใครก็อยากมั่นใจในการถ่ายรูป อาจจะเสริมเรื่องการแนะนำที่ถ่ายรูปสวย ๆ ให้เขาลองไปตามกันดูด้วยก็ได้

4. ห้ามลืมเรื่องการตลาดแม้ว่าสินค้าจะมีคุณภาพ

สินค้าดีก็มีชัยไปมากกว่าครึ่ง แต่ถ้าไม่มีใครรู้จักต่อให้สินค้าจะดีแค่ไหนก็ไม่มีทางจะไปถึงใจลูกค้าได้ เรื่องการตลาดก็เป็นเหมือนช่องทางการสื่อสารให้ลูกค้ารับรู้ว่าเรามีตัวตนอยู่ในวงการขายของออนไลน์ ลองเริ่มต้นใช้สื่อที่คุณมีอยู่ในมืออย่างแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์ จะช่วยสร้างตัวตนให้กับร้านค้าของคุณบนโลกออนไลน์ได้ไม่น้อยเลย

อย่างที่เราบอกคุณในข้อก่อนหน้าว่าสินค้าจะดูน่าสนใจได้มากขึ้น มันก็อยู่ที่การนำเสนอสินค้าของคุณที่จะส่งไปให้ถึงกลุ่มลูกค้าในอนาคต อาจจะลองทำคอนเทนต์ให้คนได้รู้จักว่าแบรนด์ของคุณทำเกี่ยวกับอะไร ขายสินค้ารูปแบบไหน แล้วค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นการจัดกิจกรรมแทนคำขอบคุณให้ลูกค้าที่เข้ามาติดตามหรือซื้อสินค้าจากร้านของคุณ พอทำแบบนี้แล้วก็จะยิ่งเป็นที่รู้จักได้มากขึ้น ทำให้คุณไม่ต้องมานั่งกังวลกับปัญหาสินค้าขายไม่ออกอีกเลย

ย้ำอีกครั้งเลยว่าคุณต้องเลิกสู้ด้วยการขายแบบลดราคาถ้าอยากขายดี เพราะถ้าอยากชนะใจลูกค้าคุณจำเป็นต้องเข้าใจภาพรวมของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของสินค้า การบริการและประสบการณ์ดี ๆ ที่ลูกค้าจะได้รับ ซึ่งทั้ง 4 ข้อในวันนี้ก็เป็นการบ้านที่คุณจะต้องกลับไปทำ รับรองได้เลยว่าถ้าเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วปัญหาเรื่องสินค้าขายไม่ออกจะไม่มากวนใจคุณเลย

Shipnity-LOGO

ก่อนจะจากกันไปขอฝากตัวช่วยพี่ ๆ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ระบบ Shinity มีตัวช่วยที่ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อยู่หมัด เก็บประวัติข้อมูลหลังบ้านได้ครบ นำมาจัดคูปองส่วนลด และแจกโปรโมชันได้ตรงใจลูกค้า โดยไม่ต้องลดราคาสินค้ามั่ว ๆ อีกต่อไป แถมยังจัดการออเดอร์สต็อกและสินค้าได้อีก 

ทดลองใช้ฟรี! 14 วัน คลิกเลย > https://blog.shipnity.com/stock-system-management-real-time/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
☎️ โทร: 065-226-8844
Facebook: facebook.com/shipnity
Line@: @shipnity