หนึ่งสิ่งที่ทุกร้านค้ามีอยู่ในมือแท้ ๆ แต่มักจะมองข้ามนั่นคือ ‘การใช้ประโยชน์จากข้อมูลของลูกค้า (DATA)’ ที่มีอยู่ในมือ มาขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเอง เพื่อสร้างยอดขายทำเงินให้กับแบรนด์ให้ได้กำไรสูงสุด ทั้งการลด Cost ลดต้นทุน ต่อยอดการออก Product ใหม่ ๆ ไปจนถึงการพัฒนาระบบซื้อ-ขายของร้านค้าให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ Shipnity มาแจก 3 ไอเดียให้คุณนำข้อมูล (DATA) ลูกค้าเหล่านี้ไปต่อยอดใช้ในธุรกิจของตัวเองได้แบบเห็นผล รู้จักพฤติกรรมลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เข้าใจ Product ของตนเองพร้อมสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ และต่อยอดมันให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้แค่รู้จักใช้ให้เป็น ทั้งลูกค้าเก่า–ลูกค้าใหม่ที่เล็งไว้ก็น่าจะมาอยู่ในมือคุณได้ไม่ยาก
1. นำข้อมูล (DATA) มาแยกประเภท จัดกลุ่มลูกค้า ลดต้นทุน ดันยอดขาย และนำเสนอโปรโมชันที่ดีที่สุด
ออเดอร์/ข้อมูล/ประวัติคำสั่งซื้อของลูกค้า เป็นสิ่งที่หลาย ๆ ร้านค้าต้องมีเก็บไว้อยู่ในระบบกันอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณเก็บไว้เฉย ๆ อยู่ในกรุ ไม่ได้นำมาใช้ทำอะไรเลย ก็เหมือนเปลืองพื้นที่หนักระบบไปแบบเปล่า ๆ และแทนที่จะเก็บไว้เฉย ๆ ไม่สู้คุณหยิบมันออกมาปัดฝุ่นนำข้อมูลเหล่านี้มาจัดกลุ่มลูกค้าเพื่อนำเสนอโปรโมชันที่ใช่ ส่งโปรโมชันเด็ด ดีลพิเศษเฉพาะกลุ่ม มัดใจและดึงดูดลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรให้ลูกค้ากลุ่มนี้กลับมาซื้อซ้ำ กระตุ้นยอดขาย ต่อยอดการทำระบบ CRM ได้ ยกตัวอย่างเช่น
- ลูกค้า A ซื้อซ้ำกับร้านคุณมา 10 ครั้ง จัดให้อยู่ในกลุ่ม “กลุ่มลูกค้าระดับ VVIP”
- ลูกค้า B ซื้อซ้ำ 5 ครั้ง จัดให้อยู่ในกลุ่ม “กลุ่มลูกค้าระดับ Gold”
- ลูกค้า C ซื้อซ้ำ 1-2 ครั้ง จัดให้อยู่ในกลุ่ม “กลุ่มลูกค้าระดับ Silver”
*ลูกค้า VVIP จะมีสิทธิพิเศษเฉพาะกลุ่มนั้น ๆ เหนือผู้อื่น ถือเป็นลูกค้าเก่าที่ซื้อบ่อยและทำเงินให้ร้านคุณมากที่สุด โดยคุณอาจนำข้อมูลลูกค้ากลุ่มนี้มาต่อยอดยกระดับสิทธิพิเศษให้เขาได้มากกว่าลูกค้า Level อื่น ๆ ทั้งด้านบริการและสินค้าที่ Exclusive มากขึ้น เพื่อผูกจิตให้ลูกค้าซื้อซ้ำและอยู่กับคุณไปนาน ๆ แล้วคุณจะลดต้นทุนการหาลูกค้าไปได้เยอะมากหากรู้จักใช้ DATA กับธุรกิจให้เป็น
2. นำข้อมูล (DATA) มาต่อยอดและเสกคอนเทนต์ที่ใช่ให้ตรงกลุ่ม
คุณเคยสงสัยหรือไม่?! ว่าแท้จริงแล้วผู้ติดตามคอนเทนต์จริง ๆ ของเราเป็นใครกันแน่ คงเป็นคำถามที่บางคนยากจะตอบ แต่ถ้าคุณรู้จักอ่าน DATA ที่มีอยู่ในมือแล้วล่ะก็… มันจะช่วยคุณเจอกลุ่มลูกค้าผู้ติดตามที่แท้จริง โดยไม่เสียเงินไปกับการยิงแอดหรือทำคอนเทนต์แบบหว่านแห ประหยัดลดต้นทุนได้อีกเยอะ พร้อมทั้งต่อยอดการสร้างสุดยอดคอนเทนต์ที่มีเฉพาะแบรนด์คุณเพื่อกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ได้คอนเทนต์เสพที่ใช่อีกด้วย
ผู้ติดตามที่ว่าชื่นชอบอะไร? อายุเท่าไหร่? มีไลฟ์สไตล์แบบไหน? ให้ความสนใจเกี่ยวกับคอนเทนต์/VDO แนวไหนมากที่สุด? ช่องทางไหนที่กลุ่มเป้าหมายคุณเล่นมากที่สุด? ข้อมูลเหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรจะนำ DATA มาวิเคราะห์ และต่อยอดทางการตลาด ถ้าทำได้ล่ะก็…แบรนด์คุณเหมือนได้ปลดล็อกสกิลใหม่เป็นแน่แท้
เพราะคุณจะรู้จักการทำคอนเทนต์ที่มีภาพชัดเจนต่อแบรนด์มากกว่าการทำคอนเทนต์ส่ง ๆ ไปอย่างนั้น ไม่ได้วางเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อหวังยอด Reach หรือ Shares ให้มันเยอะ ๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมามากกว่านั้น คือ กลุ่มลูกค้าที่สนใจ Product ของคุณจริง ๆ นั่นเอง
3. นำข้อมูล (DATA) มาสร้างและพัฒนา Product ใหม่ ๆ
- Top 10 ลูกค้าซื้อ Product ชิ้นไหนมากที่สุดในร้านของคุณ?
- สินค้าอะไร Sold out บ่อยที่สุดในรอบวัน?
- มีช่วงไหนบ้างที่ลูกค้ามีกำลังซื้อเยอะมากที่สุด?
- ลูกค้าซื้อจากช่องทางไหนมากที่สุด?
ถ้าคุณมีระบบเก็บข้อมูล (DATA) จัดกลุ่มลูกค้าดี ๆ ล่ะก็ คุณจะสามารถทราบข้อมูลพวกนี้ได้หมด แล้วนำมาต่อยอดการออก Product ชิ้นใหม่ได้อย่างล้ำหน้าตามแบบฉบับคนเก๋าเกมที่วางแผนการพัฒนาสินค้าและร้านค้าอย่างมีแบบแผนเป็น Steps เพื่อให้เกิดสุดยอดผลลัพธ์ให้แบรนด์
เช่น คุณมีข้อมูลว่า ลูกค้ามักชื่นชอบสินค้า A เป็นพิเศษ เปิดขายทีไรก็ Sold out ของหมดตลอดเวลา คุณก็อาจออกแบบอะไรใหม่ ๆ มาใกล้เคียง
แล้วดูว่าช่วงไหนที่ลูกค้าซื้อเยอะมากที่สุด จากนั้นคุณก็สามารถนำข้อมูลไปวางแผนการตลาด เพื่อโปรโมตให้ถูกช่วงวันที่ลูกค้ามีกำลังซื้อในช่องทางที่ลูกค้าสะดวกซื้อกันมากที่สุด ตามข้อมูลที่คุณมีการเก็บไว้และเกิดขึ้นจริง โดยไม่ได้มาจากความน่าจะเป็นหรือความรู้สึกไปเอง
นี่แหละคือเหตุผลที่คุณควรจะเก็บ DATA มาใช้ให้เกิดประโยชน์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อนำไปสร้างประโยชน์มากมายให้กับแบรนด์ได้อีก ทั้งประหยัดงบมากขึ้น ลดต้นทุนลด Cost ตลอดจนการพัฒนาสินค้าและการบริการของร้านให้ดียิ่งขึ้นไป
ข้อมูลลูกค้าในระบบต่อยอดให้เกิดผลลัพธ์มากมาย ทั้งการนำ DATA ไปคิดต่อยอด Product ต่อยอดคอนเทนต์ ไปจนถึงการจัดกลุ่มลูกค้าเพื่อเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์มากที่สุด ถ้าแบรนด์สามารถทำตรงนี้ได้รู้จักนำไปใช้เป็นก็จะทำให้คุณเป็นร้านที่ขายดีขึ้น ประสบความสำเร็จมากขึ้นแน่
Shipnity เองก็เป็นระบบหลังบ้าน ที่มีฟีเจอร์รองรับการทำ CRM ครบ
ที่จะช่วยคุณตกลูกค้าขาจร และสร้างลูกค้าประจำได้อย่างมั่นคง
ระบบติดตามลูกค้า เช่น ดูประวัติการซื้อ สถิติการซื้อ โปรโมชันที่ลูกค้าสนใจ
ระบบจัดการหมวดหมู่ลูกค้า เช่น ลูกค้าประจำ, ลูกค้า VIP เป็นต้น
ระบบคูปอง (Promo Code) สร้างส่วนลดเฉพาะลูกค้าแต่ละกลุ่มได้
ใช้ Shipnity น้ำหยดลงหินทุกวัน หิน (ลูกค้า) บอก ‘ชอบมาก’ เริ่มต้นเพียง 890.- ทดลองใช้ฟรี! 14 วัน
หรือสามารถทักเจ้าหน้าที่มาปรึกษาเพิ่มเติมได้เลย https://blog.shipnity.com/stock-system-management-real-time
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร: 065-226-8844
Facebook: facebook.com/shipnity
Line@: @shipnity