You are currently viewing เมื่ออยากโปรโมทแบรนด์ด้วย Influencer มีวิธีเลือกอย่างไรนะ??

เมื่ออยากโปรโมทแบรนด์ด้วย Influencer มีวิธีเลือกอย่างไรนะ??

ยุคนี้!! การโปรโมทสินค้าบนสื่อออนไลน์มีหลากหลายวิธี หลายรูปแบบ และการเลือกใช้ Influencer ก็อยู่ในหนึ่งวิธีที่ร้านค้าออนไลน์เลือกใช้กันมาก เนื่องจาก Influencer ถือเป็นผู้มีอิทธิพลบนสื่อออนไลน์และสามารถชักจูงให้กลุ่มเป้าหมายอยากซื้อสินค้าตาม และน้องชิปไปดูวิธีการเลือกใช้ Influencer กันเลย

1.ศึกษากลุ่มผู้ติดตามของ Influencer ว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ที่วางไว้หรือไม่ 

การดูยอดผู้ติดตามของ Influencer ก่อน ทำให้เรารู้ว่าควรสื่อสารอย่างไรถึงจะโดนใจกลุ่มเป้ามหายหากเราเลือก Influencer โดยดูแค่ยอดติดตาม แต่ไม่ดูพฤติกรรมผู้ติดตามของเขา ทางแบรนด์อาจสื่อสารไปหากลุ่มที่ไม่ใช่ลูกค้าและอาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายไม่คุ้มค่า 

Trick

ก่อนเลือก Influencer ควรตั้งวัตถุประสงค์ (Objective) และลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร โดยตั้งวัตถุประสงค์ (Objective) จะทำให้รู้ว่าต้องสื่อสารไปหาอย่างไรและควรใช้ Influencer ในระดับไหนในวงการอะไร

ตัวอย่าง

หากแบรนด์เราขายเสื้อกีฬา ถ้าต้องการให้เกิดการรับรู้ (Awareness) แบบวงกว้าง ก็อาจใช้ระดับ Mega Influencer ที่อยู่ในวงการกีฬา ซึ่ง Follower ส่วนใหญ่ต้องเป็นคนที่ชื่นชอบกีฬา นอกจากนี้ต้องดูพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของลูกค้าเป้าหมาย ว่าใช้งานแพลตฟอร์มไหนกันมากและรูปแบบคอนเทนต์ที่ลูกค้าเป้าหมายชอบมากที่สุด เพื่อเลือกใช้ Influencer ที่นำเสนอรูปแบบคอนเทนต์ตรงกับความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย

2.อย่าดูแค่ยอด Follower ควรดูค่าการเข้าถึง (Reach) และการมีส่วนร่วม (Engagement) ของ Influencer ด้วยนะ

ค่าจ้าง Influencer ส่วนใหญ่มักยึดตามยอด Follower ที่ยิ่งเยอะ ราคายิ่งสูง และการเลือก Influencer โดยดูแค่ยอด Follower อย่างเดียวไม่ได้นะ เพราะบางคนอาจมียอดผู้ติดตามจำนวนมาก แต่ผู้ติดตามที่เข้าถึงจริงๆมีน้อย ดังนั้นเราต้องเจาะลึกไปถึงค่การเข้าถึง (Reach) และการมีส่วนร่วม (Engagement) ที่แสดงถึงการมีส่วนร่วมของผู้ติดตามด้วยว่าเป็นอย่างไร

Trick

เทคนิคการเปรียบเทียบแต่ละ Influencer ซึ่งเราสามารถคิดสัดส่วนการเข้าถึงจริงๆของ Follower ได้ เพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือก Influencer

ตัวอย่าง

คุณโอ มี Follower 30,000  มีค่า Organic Reach 1,000 (3.33%) และ Engaged User 500 (1.67%)  คุณเอมี Follower 10,000  มีค่า Organic Reach 700 ( 7%)  และ Engaged User 300 (3%)  จะเห็นได้ชัดว่า คุณเอ มีค่า Organic Post ที่มากกว่าคุณโอ

3.ภาพลักษณ์ของ Influencer ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์

ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้า หากว่าเลือก Influencer ที่ไม่เกี่ยวกับตัวสินค้า กลุ่มลูกค้าของแบรนด์อาจรู้สึกว่า แบรนด์ดูไม่น่าเชื่อถือ

Trick

การพิจารณาเบื้องต้นง่ายๆ โดยมองเรื่องความน่าเชื่อถือและความเกี่ยวข้องกับแบรนด์ของ Influencer  ดูว่า Influencer รับงานรีวิวประเภทไหนบ้าง และดูไลฟ์สไตล์และรูปแบบเนื้อหาว่าเข้ากับสินค้าของแบรนด์เราหรือไม่

ตัวอย่าง

ถ้าหากแบรนด์เราเป็นอาหารเสริมผิวขาว ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ โดยจ้าง Influencer ที่ผิวขาวอยู่ แถมรับงานรีวิวสินค้าประเภทหลายแบรนด์ อาจทำให้  follower มองว่า สินค้าของแบรนด์ดูไม่น่าเชื่อถือได้ เพราะมองว่า Influencer โกหกว่าใช้สินค้าจริง

น้องชิปอยากแนะนำว่าก่อนตัดสินใจ ควรขอ Rate Card ของ Influencer เพื่อให้เห็นรายละเอียดคร่าวๆว่า ข้อมูลหลังบ้านเป็นอย่างไร และที่สำคัญที่น้องชิปอยากฝากไว้ ก่อนตัดสินใจเลือกใช้การโปรโมทด้วยวิธีการอะไรควรตั้งวัตถุประสงค์และงบประมาณในการโปรโมทไว้ เพื่อเราจะได้วัดผลและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคุ้มค่าน้า

Credit :  https://www.clisk.co.th/news/how-to-macro-vs-micro-influencer-marketing