You are currently viewing จะเป็นคนพูดเก่งหรือคนเงียบๆก็ขายเก่งได้

จะเป็นคนพูดเก่งหรือคนเงียบๆก็ขายเก่งได้

        บุคลิกคนเราส่วนใหญ่ มักถูกแบ่งออกเป็น  2 ประเภทด้วยกัน นั่นคือคนที่ชอบแสดงออกเปิดเผยตัวเอง (Extrovert) กับคนที่เก็บตัว (Introvert) ซึ่งถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้าพูดเรื่องการขาย (Sale) ใครๆมักคิดว่าคนที่ขายของเก่ง ต้องมีบุคลิกแบบเปิดเผย ชอบเข้าพบปะสังคม ชอบเจอผู้คนบ่อยๆเท่านั้น แต่….ถ้าเราเชื่อแบบนั้น เราคงไม่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆที่น่าตื่นตาตื่นใจ หรือได้ลิ้มลองอาชีพสนุกๆเป็นแแน่แท้ จริงๆแล้วไม่ว่าคนเราจะมีตัวตนบุคลิกแบบไหน เป็นคนเก็บตัวเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร มีพลังเพิ่มเมื่อได้มีเวลาอยู่คนเดียว (Introvert) หรือเป็นคนที่ชอบสังสรรค์ ชอบการพบเจอผู้คนแปลกหน้าแปลกตา ชอบคุยนู้นนี่มากมาย มีพลังจากการพูดคุยกับคนหลายหน้าหลายตา (Extrovert) ไม่ว่าแบบไหน เชื่อเถอะว่าสามารถประสบความสำเร็จการขายได้ไม่ยาก ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากความสามารถที่ต้องอาศัยการฝึกฝนทั้งนั้น 

ทำความเข้าใจบุคลิกตัวเอง 

      ก่อนเราจะขายของเก่ง เราต้องทำความรู้จักตัวเองก่อนว่าตัวเรามีนิสัยแบบไหน บุคลิกภาพประเภทไหน เมื่อเรารู้ตัวตนของเราแล้ว จะช่วยให้เราแก้ไขจุดอ่อนของเราได้ตรงจุด ซึ่งบุคลิกภาพหรือนิสัยตัวตนของมนุษย์มีมหาศาล คน 1 คนมีได้หลายนิสัย แต่เราจะมาจำแนกบุคลิกภาพหลักๆ 2 แบบ นั่นคือ Introvert และ Extrovert 


Introvert และ Extrovert  ส่งผลอย่างไรกับการขายของ (Sale)

       แน่นอนว่าบุคลิกประเภท Extrovert มีแนวโน้มว่าจะชอบการขายของเป็นพิเศษ เพราะบุคลิกที่ชอบเจ๊าะแจ๊ะกับผู้คน แถมมักจะเป็นบุคลิกที่ผู้คนส่วนใหญ่คิดหรือจินตนาการเมื่อนึกถึงการขาย (Sale) บุคลิกแบบ Extrovert มักทำได้ง่ายกว่าแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยพบคนที่ Introvert ในอาชีพการขายมากนัก แต่รู้หรือไม่ว่าคนบุคลิกแบบนี้มีแนวโน้มจะทำได้ดีกว่าโดยเฉลี่ย Extrovert นะจะบอกให้ (แต่ Extrovert อย่าพึ่งน้อยใจไป พวกเราก็มีจุดแข็งอันเป็นเอกลักษณ์ของเรานะจ๊ะ)


เพราะอะไร Introvert สามารถขายของได้ไม่น้อยกว่าไปกว่า Extrovert ? 

        ทั้งที่เป็นคนเก็บตัวและไม่ชอบการเจอะเจอผู้คนแท้ๆ แต่จริงๆแล้วเหล่า Introvert เอง มีความได้เปรียบในการขายไม่น้อยกว่าเหล่า Extrovert เลยเพราะทักษะที่สำคัญของคนเหล่านี้คือ “การฟัง” ซึ่งการฟังเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมาก เพราะคนที่ฟังความต้องการอย่างแท้จริงหรือการรับรู้ความคาดหวังลึกๆของลูกค้า ย่อมดีกว่าคนที่มีฝีปากการพูดเก่งฉกาจ พูดได้น่าฟัง รื่นหู แต่กลับพูดไปงั้นๆ โดยไม่ได้สนใจว่า สิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆนั้นคืออะไร เหมือนเราพูดอย่างเดียวโดยไม่ได้สนใจคนฟังเลยนั่นเอง 

       เหล่า Extrovert เองควรเรียนรู้ว่าการขายให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการพูดพรีเซ้นท์ที่ดีอย่างเดียวนะ แต่ต้องควบคู่ไปกับการเข้าใจความต้องการของลูกค้าลึกๆข้างในด้วย เหล่า Extrovert ผู้ที่มีศิลปะการพูดและสามารถฟังลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะค้นพบว่าตัวเองค่อยๆพัฒนาฝีมือขึ้น 

การฟังอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่นั่งฟังเงียบๆ

         การฟังให้มีประสิทธิภาพนั้น ไม่ใช่การนั่งฟังเงียบๆ อย่างเดียวโดยไม่พูดไม่จาอะไร ปล่อยให้คุณลูกค้าผู้น่ารักพูดคุยเจื้อยแจ้วอยู่ฝ่ายเดียว แต่การฟังให้มีประสิทธิภาพคือ เรานำเสนอสินค้าของเราไปด้วย ขณะเดียวกันก็ให้โอกาสลูกค้าเราได้พูดด้วย ให้เขาพูดถึงความคิดความต้องการของเขา การที่เราเปิดโอกาสให้ลูกค้าพูด แต่ในหัวเรากลับคิดถึงว่าเราจะพูดอะไรในลำดับถัดไป แบบนี้ก็ยังไม่เรียกว่าฟังแบบมีประสิทธิภาพเท่าไหร่น้าา
        ในทางกลับกันเหล่า Extrovert มีแนวโน้มว่าจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างฉับพลัน สร้างอารมณ์ครื้นเครง พวกเขาสามารถพูดคุยสนุกสนานได้ทันทีทันใด เสมือนพวกเขามีทักษะการเข้าหาคนอย่างดีตั้งแต่เกิดและพวกเขาไม่ค่อยมายด์เท่าไรนัก(เมื่อเปรียบเทียบกับ Introvert) ถ้าต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อโทรศัพท์กับบรรดาลูกค้า แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเหล่า Introvert ผู้มีทักษะการฟังอย่างเต็มเปี่ยม แต่อาจจะมีช่วงเวลายากลำบากสักหน่อยในการติดต่อ พูดคุยกับผู้คน และอาจจะตะกุกตะกักในการสร้างบรรยากาศให้สนุกสนาน ซึ่งจุดที่เหล่า Introvert ควรเพิ่มเติมเพื่อสร้างจุดแข็งให้ตัวเองเพิ่มขึ้นนั่นก็คือ เรียนรู้และควบคุมภาษากายตัวเองให้ทรงพลัง ไม่ว่าจะเป็นการมองตาคู่สนทนาอย่างลึกซึ้ง (Eye contact) , การวางตัวให้อยู่ในท่วงท่าบุคลิกที่ดี รวมถึงการแสดงออกว่าเราสนใจสิ่งที่ลูกค้าพูดนั้น ถือว่าเป็นภาษากายที่ดีสำหรับการขายของเลยทีเดียว ถึงแม้ว่า Introvert จะตะกุกตะกุกในการเริ่มบทสนทนาหรือสร้างบรรยากาศให้สนุกสนาน แต่ Introvert สามารถสร้างจุดแข็ง ได้โดยรักษากิริยาท่าทางให้สุขุม พูดคุยกับลูกค้าในฉบับแบบ Introvert นั่นคือการฟังความต้องการของลูกค้าอย่างตั้งอกตั้งใจ สิ่งเหล่านี้ก็สามารถชนะใจลูกค้าได้เช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย
        นอกจากนี้ สิ่งที่จะเป็นอาวุธในการปิดการขายมากขึ้นของ Introvert คือ การรวบรวมความต้องการต่างๆที่ลูกค้าได้พูดเอาไว้ จากนั้นรวมสิ่งที่ลูกค้าได้พูดไว้นั่นแหละ มารวมทั้งหมดไว้ใน sales pitch เพื่อนำเสนอการขาย ถือว่าเป็นเครื่องมือไม้ตายที่เรียกความสนใจได้ตรงจุดความต้องการของลูกค้าได้อย่างจัง  นอกจากนี้ผู้คน Introvert ค่อนข้างมีความอดทนสูงต่อลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่พูดเยอะหรือพูดมากเป็นต่อยหอย เพราะยิ่งพวกเขาพูดมากเยอะเท่าไร เหล่า Introvert สามารถเก็บข้อมูลได้เยอะมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ สำหรับการปิดการขาย


         ไม่ว่าจะบุคลิก Introvert หรือ Extrovert  ทั้งสองบุคลิกนี้เปรียบเสมือนแถบสี ซึ่งมีทั้งโทนสีสว่างและโทนสีมืด  ผู้ที่มีบุคลิกเป็น Extrovert สุดขั้วก็อยู่ด้านหนึ่ง ในทางตรงกันข้ามผู้ที่มีบุคลิก Introvert สุดๆก็จะอยู่ขั้วตรงข้าม แต่โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะมีบุคลิกอยู่ระหว่างขั้วทั้งสอง ผู้ที่เป็น Introvert หรือ Extrovert สุดขั้วอย่างใดอย่างนึง มักจะมีปัญหาในการขายในมุมของเขา จำเป็นต้องปรับตัวให้อยู่กึ่งกลางระหว่างแถบสีก่อน ดังนั้นการจะประสบความสำเร็จในการขายคือผู้ที่สามารถปรับตัวให้อยู่กึ่งกลางและดึงเอาจุดแข็งของตัวเองมาใช้ได้อย่างลงตัว


………………………………………………………………….

แชร์ประสบการณ์ฉบับแม่ค้าออนไลน์ หรือมีข้อมูลดีๆมาบอกต่อ ร่วมเม้ามอยท์ พูดคุยได้ที่นี่ 
สมาคมคนขายของและบริหารธุรกิจแบบมืออาชีพ by SHIPNITY

( Link : https://www.facebook.com/groups/1865849733720233/?source_id=805427532888306)

ขอบคุณที่มาจาก www.thebalancecareers.com