การเชื่อมต่อช้อปปี้ในระบบชิปนิตี้ มีข้อดีคือ
1. สามารถรวมรวบออเดอร์จากช่องทางช้อปปี้เข้ามาไว้ที่เดียวกัน ช่วยในการจัดการออเดอร์ได้ง่ายขึ้น
2. สามารถตัดสต็อกสินค้า และอัพเดตสต็อกสินค้าได้ในที่เดียว ในกรณีที่ขายผ่านหลายช่องทาง หรือมีหลายร้านค้าช้อปปี้
3. สามารถพิมพ์ใบปะหน้าได้ในระบบชิปนิตี้
4. สามารถดูรายงานยอดขายได้ (หากมีการแยกคลังสินค้าที่ผูกกับช้อปปี้โดยเฉพาะ)
5. สามารถออกใบกำกับภาษีทุกออเดอร์ได้จากในระบบชิปนิตี้
ข้อจำกัดในการเชื่อมต่อ Shopee กับระบบ Shipnity คือ
– ใน 1 ร้านช้อปปี้ จะเชื่อมต่อได้กับ 1 คลังสินค้าในระบบชิปนิตี้ เท่านั้น
หากมี 2 ร้านช้อปปี้ ก็จะต้องเชื่อมต่อกับคลังสินค้า 2 คลัง เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
*หากมี 1 คลังสินค้า จะสามารถเชื่อมต่อ Shopee ได้ 1 ร้าน และ Lazada ได้ 1 ร้านพร้อมกัน
วิธีการเชื่อมต่อช้อปปี้ (Shopee) สามารถทำได้ ดังนี้
1. ไปที่หน้าตั้งค่า
2. ไปที่เมนู “เชื่อมต่อระบบอื่น” เลือก “เชื่อมต่อช่องทางจำหน่าย”
3. เลือกหมวดหมู่ “Shopee”
4. กดที่ “เชื่อมต่อ Shopee เข้ากับคลัง”
5. ระบบจะลิงก์มาที่หน้าล็อคอินช้อปปี้ ให้ทำการกรอกข้อมูล
– เลือกประเทศ เป็น TH
– ใส่อีเมล์ และรหัสผ่านของร้านช้อปปี้
เสร็จแล้วกด “Log in”
6. จะเชื่อมเข้ามาที่หน้า Verification เพื่อทำการยืนยันรหัส OTP ทางระบบช้อปปี้จะส่งรหัส OTP มาให้ทาง sms ตามเบอร์โทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียนกับทางช้อปปี้ไว้ จะมีการจำกัด
*เวลาการกรอกรหัส OTP อยู่ที่ 60 วินาที ถ้าเกินเวลาที่กำหนดไว้ จะต้องกด “Resend” เพื่อให้ระบบส่งข้อความ OTP ใหม่ให้
7. กรอกข้อมูลรหัส OTP ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วกด “Verify” และกด “Confirm Authorization” เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้วจะเด้งกลับมาที่หน้าออเดอร์ของระบบชิปนิตี้ ดังภาพ
การเชื่อมต่อช้อปปี้ (Shopee) สามารถเลือกใช้ฟังก์ชันเพิ่มเติมหลังการเชื่อมต่อได้ คือ
- อัพเดตจำนวนสต็อกจาก Shipnity ไปยัง Shopee
คือ การเปิดใช้ฟังก์ชันนี้ จะเปิดใช้หลังจากมีสินค้าทั้งใน Shopee และ Shipnity แล้ว ทางร้านค้าจะสามารถจัดการสต็อกสินค้าได้จากในระบบชิปนิตี้ได้เลย เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสต็อก โดยการเพิ่ม-ลดสต็อก จะมีการอัพเดตไปยังช้อปปี้ตามรอบระยะเวลา ประมาณ 5-20 นาที
**รหัสสินค้าจะต้องตรงกันทั้งช่องทาง Shopee และ Shipnity และไม่ซ้ำกับตัวอื่นๆในระบบทั้งหมด จึงจะสามารถอัพเดตสต็อกไปที่สินค้าตัวนั้นได้ถูกต้อง
***หากรหัสสินค้าไม่ตรง หรือรหัสสินค้าซ้ำ จะไม่ทำการอัพเดตสต็อกให้กับสินค้าตัวใด ๆ เลย
วิธีการตั้งรหัสสินค้าใน Shopee กับ Shipnity : คลิก
- ดึงออเดอร์จาก Shopee เข้า Shipnity
คือ เมื่อเปิดใช้ฟังก์ชันนี้ หากมีออเดอร์เข้ามาในระบบช้อปปี้ ออเดอร์จะถูกดึงเข้ามาในระบบชิปนิตี้ด้วยตามรอบระยะเวลาประมาณ 5-15 นาที
และเมื่อออเดอร์เข้ามาในระบบชิปนิตี้ จะมีการ “จอง” สินค้านั้น ๆ ตามออเดอร์ที่มีการสั่งซื้อเข้ามา และจะตัดสต็อกสินค้าเมื่อมีการปิดรายการออเดอร์ในระบบชิปนิตี้แล้วเท่านั้น
ออเดอร์จะปิดรายการในระบบเมื่อขนส่งสแกนพัสดุเข้าสู่ระบบแล้วเท่านั้น หากติดสถานะ สินค้าหมด ทางร้านจะต้องทำการเติมสต็อกสินค้าในออเดอร์นั้น ๆ ให้เพียงพอเพื่อให้ออเดอร์สามารถปิดเองได้อัตโนมัติ
- ดึงข้อมูลค่าส่งจาก Shopee เข้า Shipnity
คือ เมื่อทางร้านเปิดใช้ฟังก์ชันนี้ ทางชิปนิตี้จะสามารถดึงราคาค่าส่งสินค้าที่ “ลูกค้าเป็นผู้ชำระให้กับทางร้านค้า” เข้ามาคำนวณยอดร่วมด้วยได้ โดยยอดค่าส่งนี้ จะนับเป็นยอดขายในรายงาน ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย หรือ ค่าส่งสินค้า
หากทางร้านมีสินค้าใน Shopee อยู่แล้ว และต้องการดึงเข้ามาเป็นรายการสินค้าใน Shipnity ด้วย สามารถกด Import สินค้าเข้ามาได้ ดังภาพ
สินค้าจะดึงมาแสดงอยู่ในหน้า “สินค้า” หรือสามารถกดที่ “สินค้า Shopee” เพื่อดูรายการสินค้าที่ Import มาจากทาง Shopee และกด Boost / Auto Boost ได้
การ Boost สินค้า 1 ครั้งอยู่ได้ 4 ชั่วโมง เช่นเดียวกันกับการ Auto Boost สินค้า จะเป็นการ Boost สินค้าให้ต่อเนื่อง เมื่อครบ 4 ชั่วโมง ก็จะเริ่ม Boost ให้ใหม่อัตโนมัติ
*Auto Boost และ Boost สินค้า รวมกันได้ 5 รายการสินค้า ต่อ 1 คลังที่เชื่อมต่อ
หากออเดอร์จาก Shopee ไม่เข้ามาในระบบชิปนิตี้ สามารถกดดึงข้อมูล เพื่อดึงออเดอร์จาก Shopee เข้ามาในระบบ Shipnity ได้ ดังภาพ
สอบถามการใช้งานได้ที่
โทร 065-226-8844
Line: @shipnity
Facebook: facebook.com/shipnity