ระบบพรีออเดอร์ กลยุทธ์การขายที่หลายธุรกิจให้ความสำคัญในการบริหารคลังสินค้า เพราะนอกจากจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาสต๊อกสินค้าไม่พอขายแล้ว ยังทำให้ร้านค้าไม่ต้องแบกภาระต้นทุนจมสินค้า วางแผนบริหารความเสี่ยงในการสั่งซื้อสินค้าได้แม่นยำขึ้น และขายสินค้าได้แบบไม่ต้องกังวลแม้ไร้ของในสต๊อก
แต่การขายของออนไลน์แบบ Pre-order ก็มาพร้อมสิ่งที่ร้านค้าต้องเตรียมรับมือให้ดีเพื่อความเป็นมืออาชีพ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักกังวลว่าจะถูกหลอก หรือถูกทิ้งไว้กลางทางโดยไม่รู้ว่าสินค้าของตัวเองถึงไหนแล้ว ร้านค้าจึงต้องมีระบบจัดการที่ดี ตั้งแต่การรับออเดอร์ การอัปเดตสถานะสินค้าให้ลูกค้าติดตามได้แบบเรียลไทม์ ไปจนถึงการส่งมอบสินค้าที่ตรงเวลา เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ยิ่งถ้าคุณเป็นมือใหม่เริ่มต้นขายของออนไลน์ที่กำลังศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องระบบพรีออเดอร์ คืออะไร? มีข้อดียังไง? เลือกระบบแบบไหนดีให้เหมาะกับร้านค้า บทความนี้มีคำตอบ!
ระบบพรีออเดอร์ (Pre-Order) คืออะไร?

คือ วิธีการขายของออนไลน์ที่ร้านค้าจะเปิดให้ลูกค้าสั่งจองและชำระเงินล่วงหน้าเพื่อซื้อสินค้า โดยจะมีการเปิดให้สั่งจองในระยะเวลาที่จำกัด เมื่อถึงวันปิดพรีออเดอร์ ร้านค้าจะรวบรวมออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งซื้อมาทั้งหมดเพื่อนำไปสั่งผลิตสินค้าจากซัพพลายเออร์ในจำนวนที่แน่นอน และเมื่อสินค้าผลิตเสร็จแล้วจึงจะจัดส่งให้ลูกค้าตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีร้านค้าออนไลน์ปรับไปใช้ขายของในวิธีต่าง ๆ แบ่งได้ 4 รูปแบบ ดังนี้
– พรีออเดอร์แบบ Made-to-Order สั่งผลิตตามจำนวนที่ลูกค้าสั่ง เช่น สินค้าแฮนด์เมด ใช้เวลาผลิตและจัดส่งประมาณ 7-30 วัน
– พรีออเดอร์ของจากต่างประเทศ เป็นการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ เช่น เสื้อผ้าแฟชั่นจากเกาหลี ญี่ปุ่น เครื่องสำอาง มักใช้เวลารอนานถึง 14-30 วัน
– พรีออเดอร์สินค้าลิมิเต็ด (Limited Edition) เป็นการสั่งจองสินค้าพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัด
– พรีออเดอร์แบบจองล่วงหน้า สำหรับสินค้าที่กำลังเตรียมจะวางจำหน่าย เช่น สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ หนังสือนิยาย
การพรีออเดอร์ในแต่ละครั้ง ก็จะขึ้นอยู่กับร้านค้าว่ามีการกำหนดรายละเอียดของสินค้าชิ้นนั้น ๆ อย่างไรบ้าง ในบางร้านค้าอาจมีข้อตกลงให้ลูกค้าจ่ายเงินมัดจำมา 50% มาก่อน เมื่อของมาถึงแล้วจึงค่อยชำระเงินที่เหลือให้ครบ เพื่อป้องกันลูกค้าสั่งแล้วยกเลิกในภายหลังได้อีกด้วย
ระบบพรีออเดอร์ มีประโยชน์ข้อดียังไง? ช่วยเพิ่มยอดขายได้ไหม?

– ลดความเสี่ยงเงินทุนและสต๊อกจมสินค้า
ช่วยให้คุณหมดปัญหาสินค้าค้างสต๊อก เงินจมทุน เพราะรู้ปริมาณออเดอร์คำสั่งซื้อสินค้าที่แน่นอน ทำให้ร้านค้าของคุณวางแผนการผลิตและการจัดส่งได้แม่นยำขึ้น ไม่ต้องเช่าโกดังสินค้าให้วุ่นวาย ให้คุณมีเงินทุนหมุนเวียนในการสั่งซื้อหรือผลิตสินค้าเพิ่ม รู้ต้นทุนและกำไรล่วงหน้า บริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีคุณภาพ ทำให้การขายของออนไลน์ของคุณลื่นไหลไม่มีสะดุด
– เพิ่มมูลค่าให้แบรนด์ สร้างความตื่นเต้นให้ลูกค้า
ปัจจุบันมีแบรนด์ใหญ่หลายแห่งมักใช้วิธีการขายพรีออเดอร์เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างความ Impact ให้แบรนด์ โดยอาจเล่นกับจิตวิทยาการขายสักเล็กน้อย เพราะเมื่อมีการกำหนดช่วงเวลาจองที่จำกัด จะทำให้ลูกค้าเกิดความกลัวที่จะพลาดโอกาส ถ้าไม่พรีออเดอร์ตอนนี้ ร้านค้าอาจไม่สั่งผลิตสินค้าเพิ่มแล้ว ซึ่งถือเป็นการดันยอดขายได้ดีมาก โดยมากมักจะใช้เวลาที่แบรนด์ออกสินค้ารุ่น Limited Edition หรือการเปิดตัวสินค้าพรีเมียม
Checklist ระบบพรีออเดอร์ เว็บไหนดี? เลือกยังไง?

1. สำรวจวิธีการขายของตนเอง มีรูปแบบการขายอย่างไร
เช่น ถ้าคุณมีการขายแบบพรีออเดอร์แบบ Made-to-Order ก็จำเป็นต้องมองหาระบบที่ช่วยรวบรวมคำสั่งซื้อทุกชิ้นก่อนสั่งผลิต หรือถ้าหากคุณเน้นขายแบบพรีออเดอร์จากเกาหลี ก็จำเป็นต้องมีระบบติดตามสถานะคำสั่งซื้อและแจ้งเตือนข้อความลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าตรวจสอบได้ตลอดเวลาว่าคุณไม่ทิ้งออเดอร์ และสินค้าอยู่ในขั้นไหน เป็นต้น
2. เปรียบเทียบฟีเจอร์สำคัญที่ระบบพรีออเดอร์ต้องมี
ระบบพรีออเดอร์ที่ดีต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามเช็กลิสต์ด้านล่างนี้
การจัดการสต๊อกและคำสั่งซื้อ มองหาระบบสต๊อกที่สามารถเติมแบบพรีออเดอร์ได้ รวมไปถึงสามารถมีจอ Dashboard ดูสถานะคำสั่งซื้อทั้งหมดได้ จะช่วยให้ร้านคุณบริหารงานได้ง่ายขึ้นมาก
เปิดบิลสร้างออเดอร์/ลิงก์คำสั่งซื้อ ให้ลูกค้าติดตามสถานะของตนเองได้
มีระบบรับชำระเงินที่หลากหลาย เพื่อรองรับทุกการขาย ลูกค้าบางคนอาจสะดวกในการโอนจ่าย, คิวอาร์โค้ด, บัตรเครดิต-เดบิต เป็นต้น
ระบบฝากยอด/มัดจำ ในบางร้านค้าที่เปิดให้ลูกค้าจ่ายมัดจำมาก่อนได้ระหว่างรอสินค้า ระบบฝากยอดก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่ควรมี หากคุณมองหาระบบพรีออเดอร์
ระบบแจ้งเตือนลูกค้า เมื่อของมาถึงคลังสินค้าแล้วก็ควรมีแจ้งเตือนลูกค้า
ระบบติดตามสถานะออเดอร์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปติดตามสถานะออเดอร์ของตนเองได้แบบเรียลไทม์ ไม่ต้องทักมาหาแอดมินเพื่อถามว่า “ของถึงไหนแล้วคะ?”
มีแจ้งเตือนเลขพัสดุทาง SMS มองหาระบบที่สามารถเชื่อมต่อขนส่งได้โดยตรง จะได้ครบลูปในการขายของ
3. หน้าระบบใช้ง่ายเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน
ควรมองหาระบบที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน มีการสอนใช้งานระบบ หรือมีคู่มือให้ทีมงานในร้านของคุณเรียนรู้ง่าย ๆ ที่สำคัญคือระบบพรีออเดอร์ดังกล่าวควรมีทีมซับพอร์ตตลอดการใช้งาน เมื่อติดปัญหาใด ๆ จะได้ช่วยคุณแก้ปัญหาและใช้งานได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด
ระบบพรีออเดอร์ที่ดีจะช่วยให้ร้านค้าขายของได้อย่างราบรื่น สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า และเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้แม้ไม่มีสินค้าพร้อมส่ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าร้านของคุณมีการเตรียมความพร้อมดีแค่ไหน หากอยากให้ธุรกิจดูเป็นมืออาชีพก็ควรมาหาระบบที่เข้ามาช่วยซับพอร์ตการขายของในส่วนนี้ให้เต็มประสิทธิภาพ

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ Shipnity รองรับการขายแบบพรีออเดอร์ ช่วยคุณรับออเดอร์ไม่มีสะดุด แม้วันที่ไร้ของในสต๊อกสินค้า เปิดบิลผ่านแชท พร้อมแนบลิงก์คำสั่งซื้อให้ลูกค้าติดตามสถานะได้ง่ายดาย ส่งแจ้งเตือน SMS หาลูกค้าเมื่อของมาถึงร้าน ยกระดับความเป็นมืออาชีพให้ธุรกิจ ช่วยคุณเบาแรงในการขายของได้อีกเยอะ
หากสนใจใช้งาน สามารถทดลองใช้ฟรี 14 วัน คลิกเลย
> https://blog.shipnity.com/stock-system-management-real-time/
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร: 065-226-8844
Facebook: facebook.com/shipnity
Line@: @shipnity