สิ่งที่มือใหม่เริ่มต้นขายของออนไลน์มักจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “ต้นทุน” ที่จะบริหารอย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะต้นทุนเรื่องค่าส่งพัสดุที่กินส่วนแบ่งกำไรไปไม่น้อย ในบางรายที่ยังจัดการร้านค้าไม่เข้ามือ ไม่ค่อยรู้ลึกในเรื่องการขนส่ง ก็อาจบริหารเข้าเนื้อตัวเองได้แบบไม่รู้ตัว แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะสำหรับใครที่กำลังมืดแปดด้าน
เพราะวันนี้ Shipnity มี 4 วิธีประหยัดค่าส่งตามแบบฉบับแม่ค้าออนไลน์มืออาชีพ มาแชร์ให้ทุกคนแล้ว อ่านจบรับรองว่าคุณจะได้ไอเดียไปต่อยอดลดต้นทุนค่าส่ง ได้ค่าส่งถูกสมใจแบบเห็นผล
1. ส่องราคาขนส่งและเปรียบเทียบราคา

ก่อนอื่นมือใหม่ที่เริ่มต้นขายของออนไลน์ทุกคน ควรต้องเริ่มจากการเช็กและรู้จักข้อมูลธุรกิจตนเองให้แน่ใจก่อนว่า สินค้าที่ขายอยู่นั้นมีขนาดและน้ำหนักเท่าไหร่ เพื่อจะได้มองหาดีลราคาค่าส่งถูกได้ตรงตามที่ใจต้องการ จากนั้นให้เริ่มเปรียบเทียบราคาขนส่งชั้นนำแต่ละขนส่งว่า “ขนส่งไหนราคาถูกสุด” แนะนำให้เช็ก 2-3 ขนส่งเพื่อเปรียบเทียบราคาที่ดีที่สุด และขอดูโปรโมชันหรือดีลพิเศษจากขนส่งนั้น ๆ เพิ่มเติมเพื่อนำมาเป็นตัวเลือกในการพิจารณา
โดยถ้ายังไม่แน่ใจในคุณภาพขนส่ง คุณสามารถทดลองใช้บริการจริงจากขนส่งแต่ละรายได้ก่อน เพื่อประเมินว่าขนส่งนี้มีบริการเป็นอย่างไร ของเสียหายหรือไม่ ขนส่งส่งของถึงมือลูกค้าตรงเวลาหรือไม่ ไปจนถึงสภาพสินค้าระหว่างการขนส่งเป็นอย่างไร ซึ่งวิธีนี้น่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองได้ไม่น้อยเลย
2. เรียกรถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน ประหยัดเวลา ลดต้นทุนค่าเดินทาง

การเรียกรถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้มือใหม่ขายของออนไลน์ประหยัดเวลาและต้นทุนค่าใช้จ่าย เพราะเพียงแค่กดเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน/เว็บไซต์ขนส่ง แล้วใส่ข้อมูลรายละเอียด เช่น จำนวนกล่องพัสดุ น้ำหนักคร่าว ๆ จากนั้นเลือกวัน-เวลาเข้ารับที่ตนเองสะดวก รถขนส่งก็จะมารับถึงหน้าบ้านทันที
ยิ่งปัจจุบันขนส่งแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็น ไปรษณีย์ไทย EMS, Flash, J&T Express, SPX หรือ KEX ก็จะมีโปรโมชันพิเศษอย่างการเรียกรถเข้ารับถึงบ้านฟรี! ตามแต่เงื่อนไขต่าง ๆ ของแต่ละขนส่ง เช่น ฟรีตั้งแต่ชิ้นแรก หรือ ฟรีเมื่อมีพัสดุ 3-5 กล่องขึ้นไป ก็อาจจะมีค่าบริการให้จ่ายเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่สะดวกสบายขึ้นมาก เพราะถ้าเทียบกับการเดินทางไปส่งเองถึงสาขาแล้ว วิธีนี้จะช่วยประหยัดลดต้นทุนค่าเดินทางลงได้เยอะ ไม่ต้องตากแดดแบกของหนักให้เสียเวลาอีกต่อไป มีเวลาไปบริหารจัดการด้านอื่นของธุรกิจ
3. สร้างคอนเนกชันที่ดีกับขนส่ง

มือใหม่เริ่มต้นขายของออนไลน์คนไหนที่มีออเดอร์เริ่มเยอะขึ้น แล้วอยากได้ค่าส่งถูกลงเพื่อมาลดต้นทุน ต้องรู้จักหาลู่ทางใหม่ ๆ ในการวางแผนธุรกิจอย่างการสร้างคอนเนกชันที่ดีกับขนส่งไว้บ้างก็จะเป็นการดี เพราะวิธีนี้สามารถช่วยลดต้นทุนให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ในระยะยาว โดยเฉพาะร้านค้าที่มีปริมาณออเดอร์ต่อวันเยอะและมีการส่งของทุกวัน คุณสามารถทักไปคุยกับพนักงานเซลประจำแต่ละขนส่งได้เพื่อขอรับโปรโมชันหรือราคาพิเศษ ในบางครั้งดีลหรือโปรโมชันลับ ๆ อาจไม่ได้แสดงหน้าเพจหรือเว็บไซต์ ต้องอาศัยการถามและพูดคุยบ่อย ๆ กับขนส่งโดยตรงนะคะ
เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าประจำ โปรโมชันเฉพาะร้านค้า หรือสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ ที่ให้คนอื่นไม่ได้แต่ให้คุณได้ ยิ่งถ้าหากช่วงไหนคุณขายดิบขายดีมีออเดอร์ส่งต่อวันล้นทะลัก ก็อาจทำให้ยิ่งมีอำนาจต่อรองได้สูง ช่วยประหยัดต้นทุนค่าส่งได้อีกแรง
4. ส่งผ่านระบบหลังบ้านที่เป็น Partner กับขนส่งโดยตรง

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การเชื่อมต่อกับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่จับมือเป็น Partner กับผู้ให้บริการขนส่งชั้นนำโดยตรง ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนและได้ค่าส่งถูกได้ เนื่องจากระบบเหล่านี้จะสามารถดีลเรทราคาพิเศษจากขนส่งได้โดยตรง ซึ่งในบางขนส่งก็ให้ราคาค่าส่งได้ถูกกว่าการดีลเองอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะได้เรทค่าส่งถูกแล้ว การเชื่อมต่อระบบหลังบ้านนี้ก็จะช่วยให้คุณลดต้นทุน ลดขั้นตอนการทำงานอื่น ๆ ลงได้ ทำงานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดการออเดอร์ที่เข้ามาในแต่ละช่องทาง ทั้งยังสามารถติดตามพัสดุ ติดตามออเดอร์ลูกค้า เช็กสถานะพัสดุ ปริ้นท์ใบปะหน้า จัดการสต๊อกได้ในระบบเดียว ช่วยให้คุณบริหารจัดการร้านค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
อย่างระบบ Shipnity เองก็เป็นระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่จับมือเป็น Partner กับขนส่งชั้นนำหลายเจ้า โดยมีเรทค่าส่งถูก เริ่มต้นเพียง 19 บาท สำหรับขนส่งไปรษณีย์ไทย EMS นอกจากจะได้เรทค่าส่งถูกแล้ว ยังมีบริการอื่น ๆ ให้เลือกใช้กันคุ้มค่า ทั้งระบบจัดการออเดอร์ & สต๊อกสินค้าที่มีการติดตามสถานะลูกค้าให้ครบ รวมไปถึงบริการพิเศษอื่น ๆ ที่จะช่วยติดตามและประสานงานขนส่งให้โดยตรง ช่วยประหยัดทั้งต้นทุนและเวลาให้คุณได้แบบจัดเต็ม
สำหรับมือใหม่ขายของออนไลน์ การบริหารจัดการต้นทุนค่าส่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุนลงได้ เริ่มจากการเปรียบเทียบราคาโปรโมชัน เลือกวิธีการให้รถขนส่งเข้ามารับพัสดุถึงบ้าน จะประหยัดเวลามากกว่าไปส่งเอง และต้องไม่ลืมสร้างคอนเนกชันที่ดีกับขนส่งเอาไว้เพื่อสิทธิพิเศษใด ๆ ในอนาคต ยิ่งถ้าคุณรู้จักระบบหลังบ้านที่มีการจับมือดีลกับขนส่งไว้ ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนได้แบบคูณสอง เพราะเป็นวิธีที่ได้ประสิทธิภาพและลดต้นทุนระยะยาวแบบยั่งยืน

ย้ายมาส่งไปรษณีย์ EMS ผ่านระบบ SHIPNITY
ไม่ใช่ดีลอย่างเดียวที่คุ้ม แต่พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกหลายต่อ เรทเริ่มต้นเพียง 19.-
หากคุณกำลังมองหาระบบหลังบ้านที่มีค่าส่งถูกและบริการที่ครบครัน Shipnity ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ติดตามสถานะพัสดุ เชื่อมสต๊อกให้ในทุกช่องทาง พร้อมดูรายงานยอดขายได้ ให้คุณมีเวลาต่อยอดธุรกิจในด้านอื่น ๆ
เริ่มต้นเพียง 890.- หรือทดลองใช้ฟรี 14 วัน
คลิกเลย! > https://blog.shipnity.com/stock-system-management-real-time/
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร: 065-226-8844
Facebook: facebook.com/shipnity
Line@: @shipnity