You are currently viewing Sale Page คืออะไร? ทางเลือกของคนไม่ขายบนแพลตฟอร์ม ปิดการขายได้ในเว็บเดียว

Sale Page คืออะไร? ทางเลือกของคนไม่ขายบนแพลตฟอร์ม ปิดการขายได้ในเว็บเดียว

เดี๋ยวนี้แพลตฟอร์ม Marketplace เก็บค่า % และค่าคอมมิชชันกันเลือดตาแทบกระเด็น ยังไม่รวมกับอุปสรรคใหม่อย่างกระแสแอปจีนที่เริ่มเข้าไทยมาแข่งขันตัดราคากันฉ่ำในตลาด ทำให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์/เจ้าของธุรกิจต่างก็มองหาลู่ทางใหม่ ๆ ที่จะทำให้อยู่รอดปลอดภัยไม่เจ๊งไม่ขาดทุน

Sale Page จึงเป็นช่องทางการขายที่ใคร ๆ ต่างก็ให้ความสนใจในเวลานี้ เพราะเป็นช่องทางที่คุณมีอิสระเต็มที่ในการบริหารจัดการ ตั้งแต่ลงขายสินค้า ให้ลูกค้าจ่ายเงิน ไปจนถึงแพ็กของส่ง ทั้งที่จริงมันไม่ใช่ทางเลือกใหม่ในการขาย แค่ช่วงที่ผ่านมาโดนกระแสแพลตฟอร์มกลบจนมิดนั่นเอง และถ้าหากคุณกำลังเล็งเห็นถึงลู่ทางใหม่ ๆ ในการขายของ  Sale Page คุ้มไหม? ที่จะเสี่ยงในการเปลี่ยนช่องทางการขาย บทความนี้น่าจะมีคำตอบให้คุณเมื่ออ่านจนจบ

Sale Page คืออะไร? แตกต่างจาก Landing Page ยังไง?

Sale Page เป็นเว็บไซต์หน้าเดียวที่มีเป้าหมายเพื่อการเสนอขายสินค้า/บริการโดยเฉพาะ ที่ให้ลูกค้าเข้ามาเลือกชม สั่งซื้อสินค้า 
กดใส่ตะกร้า และแจ้งชำระจ่ายเงินได้ด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์ มีการวัดผลจากยอดขาย/ออเดอร์ลูกค้าโดยตรง

 สามารถคลิกดูตัวอย่าง Sale Page สำเร็จรูป ได้ที่ :
https://robinwood.nativewhale.com/

ในขณะที่เว็บไซต์ (Landing Page) จะเป็นเว็บไซต์ที่มีเป้าหมายเพื่อเน้นการให้ข้อมูลที่น่าสนใจละเอียด ส่งเสริมภาพลักษณ์ สร้างความน่าเชื่อถือและการรับรู้ให้แบรนด์เพื่อการตลาดในระยะยาว และอาจเป็นเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อไปยังหน้าอื่น ๆ ได้ โดยมีการวัดผลจากจำนวนคนที่เข้าชมเว็บไซต์ หรือมีการกดคลิกปุ่ม Call-To-Action เช่น โหลดเลย คลิกเลย ลงทะเบียนเลย 

ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ล้วนเหมาะกับทุกธุรกิจร้านค้าออนไลน์ทั้งสิ้น เพราะช่วยสร้างโอกาสทางการขายให้ร้านค้าได้เช่นเดียวกันทั้งคู่ จะมีทั้ง Sale Page และ Landing Page (Website) พร้อมกันก็ได้ โดยอยู่ที่ร้านค้ามากกว่าว่าจะนำไปปรับใช้กับธุรกิจกันอย่างไร

Sale Page มีข้อดียังไง? แตกต่างจากแพลตฟอร์ม Marketplace ไหม?

> ลดต้นทุน ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องแบ่ง % ให้แพลตฟอร์ม

การขายบน Sale Page หลายเว็บไซต์อาจให้คุณได้ใช้ฟรี แต่โดยส่วนใหญ่ก็จะมีค่าใช้จ่ายแพ็กเกจที่คุณต้องจ่ายเพื่อดูแลเว็บไซต์ในทุก ๆ เดือน แลกกับการที่คุณไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชัน ค่าธรรมเนียม ส่วนแบ่งจากยอดขาย หรือแบ่งค่า % กับแต่ละแพลตฟอร์ม กำไรจะเข้าเนื้อคุณเต็ม ๆ มากขึ้นนั่นเอง

> มีอิสระในการบริหารจัดการร้านค้า โฟกัสการขายได้เต็มที่

คุณสามารถวางแผนบริหารจัดการตัวเอง พร้อมกำหนดทิศทางแบรนด์ได้เองทั้งหมด ตั้งแต่การทำคอนเทนต์ ยิงแอดหาลูกค้ามาซื้อบนหน้าเว็บ ออกโปรโมชัน ตั้งราคาค่าส่ง และสร้างแบรนด์ได้เต็มที่ ในขณะที่การขายบนแพลตฟอร์ม Marketplace ต่าง ๆ ก็มีข้อควรระวังและข้อจำกัดที่คุณในฐานะร้านค้าต้องปฏิบัติตามให้ถูกต้องตามหลักแอปพลิเคชันนั้น ๆ

> สร้างฐานลูกค้าประจำที่แข็งแกร่ง และเป็นเจ้าของข้อมูลเองทั้งหมด

คุณสามารถยิงแอดโปรโมตหาลูกค้าได้ตามต้องการ แถมยังได้เป็นเจ้าของข้อมูลลูกค้า เก็บ DATA เองทั้งหมด เพราะฐานข้อมูลลูกค้าล้ำค่ามากกว่าที่คุณคิด ต่อยอดทำการตลาด ทำ CRM สร้างฐานแฟนคลับประจำร้านให้วนกลับมาซื้อซ้ำได้บ่อย ๆ 

ถึงอย่างนั้นก็อาจไม่เหมาะสำหรับร้านที่ไม่ถนัดการหาลูกค้าเองเพราะการขายบน Marketplace ก็มีข้อดีที่แต่ละแอปพลิเคชันก็จะมีฐานลูกค้ากันอยู่แล้ว ทำให้เข้าถึงผู้ซื้อได้มากกว่า แต่ก็แลกมาด้วยคู่แข่งในสนามที่ดุเดือด รวมถึงทุนจีนที่เริ่มเข้ามาแย่งลูกค้าคุณไปด้วย

> ระบบชำระเงินที่ง่ายและรวดเร็ว สะดวกทั้งร้านค้า-ลูกค้า

ลูกค้าสามารถจ่ายเงินผ่านหน้าเว็บ Sale Page ได้ทันที รองรับการชำระเงินที่หลายรูปแบบไม่แพ้ Marketplace ทั้งการโอนผ่านธนาคาร, การจ่ายผ่านบัตรเครดิต-เดบิต, การชำระเงินผ่าน QR-Code และยังตรวจสลิปปลอมเมื่อลูกค้าแจ้งโอนได้อีกด้วย เมื่อลูกค้าจ่ายเงินแล้ว ร้านค้าสามารถเช็กว่าเงินเข้าได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านแพลตฟอร์มตัวกลางใด ๆ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

Sale Page เทมเพลต สำเร็จรูป เจ้าไหนดี?

1. Shipnity

หน้าเว็บ Sale Page จากระบบหลังบ้าน Shipnity แสดงรายละเอียดสินค้า รูปภาพคล้ายกับ E-Catalog มีเทมเพลตมาให้ สามารถ Custom เปลี่ยนเป็นโลโก้ร้านค้า สีประจำแบรนด์ เปลี่ยนภาพและลงสินค้าของร้านคุณได้ทันที 

ลูกค้ากดใส่ตะกร้าซื้อของจ่ายเงินง่าย แชทคุยกับแอดมินได้ทันทีผ่านเซลเพจ สามารถนำลิงก์ไปยิงแอดติด Facebook Pixel และ Google Analytic ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อสต๊อกสินค้าและจัดการออเดอร์กับระบบ Shipnity ได้อีกด้วย

2. iEzy Pro Sale Page

หน้าเว็บสำเร็จรูป Sale Page ง่าย ๆ ในราคาย่อมเยา ที่คุณไม่เก่งคอมหรือไม่มีพื้นฐานก็สามารถดีไซน์ ปรับแต่งได้ตามความต้องการ ทั้งยังสามารถยิงแอดได้ทุกช่องทาง รองรับการใช้งานทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตครบถ้วน

3. Fastcommerz

เป็นแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ Sale Page สำเร็จรูปฟรี และออกแบบโดยคนไทย ข้อดีเลยคือ มีเทมเพลตหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ รองรับการใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ และยังติดเครื่องมือส่งเสริมการตลาดได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Facebook Pixel , TikTok Pixel และ SEO Google

มองเผิน ๆ อาจดูเป็นทางเลือกใหม่ ทั้งที่มันไม่ได้ใหม่ แต่กลับเป็นอะไรที่มีมานานแล้ว เมื่อโลกของการแข่งขันมันดุเดือดมากขึ้น ก็ต้องหาหนทางใหม่ ๆ มารองรับแทนที่จะอยู่เฉย ๆ ก็กลับมายังจุดที่หลายคนยังมองข้าม Sale Page ก็เป็นทางออกสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่กำลังประสบปัญหาโดนหัก % จากแพลตฟอร์มเยอะ ไหนจะทุนจีนที่เข้ามามีส่วนให้ยอดขายตก การมีช่องทางขายที่เราเป็นเจ้าของข้อมูลเองทั้งหมดก็น่าสนใจไม่น้อย

Shipnity-LOGO

ส่วนใครที่กำลังมองหา Sale Page เพื่อเป็นช่องทางใหม่ในการขายสินค้า ให้ Shipnity เป็นตัวช่วยไหม?
เราเป็นระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ที่มีเทมเพลตให้คุณใช้ฟรี และสร้างง่าย คุณสามารถบริหารธุรกิจและปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น หากต้องการเชื่อมต่อสต๊อกสินค้า จัดการข้อมูลลูกค้า เก็บประวัติการขายทั้งหมดก็สามารถทำได้ 

เราพร้อมดูแลคุณตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการขาย ยินดีสอนใช้จนเป็นแม้ยังไม่จ่ายเงิน

สนใจสมัครที่นี่ แพ็กเกจเริ่มต้นหลักร้อย
มีให้ทดลองให้ใช้ฟรี 14 วัน >  https://blog.shipnity.com/stock-system-management-real-time/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
☎️ โทร: 065-226-8844
Facebook: facebook.com/shipnity
Line@: @shipnity